ทานอาหารแก้ตกขาว กันเถอะ! ช่วยปรับสมดุลภายใน ตกขาวหาย น้องสาวไร้กลิ่น

นอกจากการ ติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส ในช่องคลอด ร่างกายขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน ไม่ใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ ชอบสวนล้างช่องคลอด รักษาความสะอาดจุดซ่อนเร้นไม่ดีพอ และอื่น ๆ อีกมากมายแล้ว สาว ๆ รู้หรือไม่ว่า อาหารที่เรารับประทานเข้าไปทุกวัน ก็เป็นสาเหตุตกขาวผิดปกติได้  แต่เราก็สามารถรักษาตกขาว ด้วยการทานอาหารแก้ตกขาว ได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นวันนี้เราจะชวนสาว ๆ มาดูกันว่า หากเป็นตกขาวห้ามกินอะไรบ้าง แล้วเป็นตกขาว กินอะไรหาย บอกเลยว่า อาหารแก้ตกขาว หาทานได้ไม่ยาก 

อาหารแก้ตกขาว มีอะไรบ้าง

อธิบายให้เข้าใจก่อนว่า โดยปกติแล้วช่องคลอด จะมีค่าความเป็นกรดด่าง ที่สมดุล อยู่ระหว่าง 3.5 – 4.5 ซึ่งอาหารที่เรากินเข้าไปทุกวันนั้น ล้วนมีผลต่อค่าความสมดุลในช่องคลอด ดังนั้นสาเหตุตกขาวเพิ่มมากผิดปกติ ตกขาวมีกลิ่น คันตกขาว หรือ ตกขาวเป็นปกติ ส่วนหนึ่งก็มาจากอาหารที่เรากินนี้แหละ เพราะฉะนั้น หากคุณกำลังเป็นตกขาวอยู่ อยากรู้ว่าเป็นตกขาว กินอะไรหาย เราแนะนำให้กินอาหารแก้ตกขาว ดังนี้ 

1. น้ำเปล่า

เป็นตกขาว กินอะไรหาย อย่างแรกที่เราแนะนำเลยก็คือ การดื่มน้ำเปล่า ให้เพียงพอต่อวันที่ร่างกายควรได้รับ เพราะจะช่วยลดภาวะช่องคลอดแห้ง ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด จนนำไปสู่สาเหตุตกขาว ตกขาวมีกลิ่น ตกขาวเปลี่ยนสีนั่นเอง 

2. โยเกิร์ต นมเปรี้ยว

เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนคงทราบกันเป็นอย่างดีว่า โยเกิร์ต และ นมเปรี้ยว เป็นอาหารแก้ตกขาวได้ ซึ่งเป็นเรื่องจริง และ เราแนะนำให้ลองหามากินดู เพราะในโยเกิร์ต และ นมเปรี้ยว มีโปรไบโอติก (Probiotics) ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดดี ที่จะเข้าไปช่วยปรับสมดุลในช่องคลอด ลดการเกิดเชื้อรา และตกขาวได้

3. ธัญพืช 

อาหารแก้ตกขาว ที่ดีอีกอย่าง คืออาหารจำพวกธัญพืช ไม่ว่าจะเป็น ถั่วเหลือง อัลมอนด์ ลูกเดือย งาดำ เมล็ดทานตะวัน ฯลฯ ล้วนเป็นมิตรต่อช่องคลอด เพราะมีวิตามินอี แมกนิเซียม ที่จะช่วยทำให้ผิวช่องคลอดชุ่มชื้น ค่าความสมดุลช่องคลอดปกติ ลดอาการตกขาวผิดปกติได้  

4. ดอกคำฝอย

ดอกคำฝอย เป็นอีกหนึ่งอาหารแก้ตกขาว ที่เป็นมิตรต่อจุดซ่อนเร้น และ ระบบภายในของผู้หญิง เพราะช่วยทำให้โลหิตไหลเวียนดี ช่องคลอดสมดุล ไม่แห้ง ไม่เป็นตกขาว อีกทั้งช่วยในเรื่องปวดประจำเดือน ของสาว ๆ ได้ดีอีกด้วย 

5. ผักใบเขียว

ผักใบเขียว นับว่าเป็นอาหารแก้ตกขาวได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น กะหล่ำปลี ผักโขม บล็อคโคลี ฯลฯ ที่อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุหลากหลายชนิด มีส่วนช่วยส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต ป้องกันภาวะช่องคลอดแห้ง ที่นำไปสู่สาเหตุตกขาว อีกทั้งช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ บริเวณช่องคลอด ได้อีกด้วย

6. ผลไม้วิตามินซีสูง

ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เรียกว่าเป็น อาหารแก้ตกขาวได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ สับปะรด กีวี่ ส้ม ฯลฯ เพราะมีส่วนช่วยปรับสมดุลค่าความเป็นกรดด่างในช่องคลอด ให้เป็นปกติ ช่วยกำจัดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ในร่างกายได้ ดังนั้นใครที่เป็นตกขาว เราแนะนำให้หามากินดู 

ผู้หญิงควรรู้! เป็นตกขาวห้ามกินอะไรบ้าง

เป็นตกขาวห้ามกินอะไรบ้าง? เชื่อว่าคำถามนี้ สาว ๆ หลายคนที่เป็นตกขาว ตกขาวมีกลิ่น อยากจะรู้คำตอบ ซึ่งเราได้รวบรวมมาให้แล้ว ดังนี้

1. อาหารรสจัด

เป็นตกขาวห้ามกินอะไรบ้าง? อย่างแรกเลย คือ อาหารรสจัด เพราะการกินอาหารรสจัด เป็นประจำ มีส่วนทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น น้ำย่อยในกระเพาะอาหารหลั่งมากเกินความจำเป็น จนทำให้ลำไส้แปรปรวน แบคทีเรียที่ดีในร่างกาย เสียความสมดุล เป็นผลให้แบคทีเรียในช่องคลอด เสียความสมดุลตามไปด้วย จนเกิดเป็นตกขาว ตกขาวมีกลิ่นขึ้นมาได้นั่นเอง ดังนั้นหากอยู่ในช่วงรักษาตกขาว แนะนำให้กินอาหารรสชาติอ่อน หรือ รสชาติกลาง ๆ จะดีกว่า 

2. ของหมัก ของดอง 

เป็นตกขาวห้ามกินอะไรบ้าง? อาหารสำคัญอีกอย่าง ที่ควรงดเลยก็คือ ของหมัก ของดอง เช่น ผักดอง ผลไม้ดอง ปลาร้า เต้าเจี้ยว กิมจิ เพราะอาหารเหล่านี้ มีผลต่อค่ากรดด่างภายในช่องคลอด ทำให้ช่องคลอดเสียความสมดุล ช่องคลอดอักเสบ สาเหตุตกขาวเพิ่มมากขึ้นได้ รวมไปถึง ทำให้จุดซ่อนเร้นมีกลิ่น ตกขาวมีกลิ่นแรง สีตกขาวเปลี่ยน เกิดอาการคันในช่องคลอดอีกด้วย

3. ของมัน ของทอด 

การกินของมัน ของทอด จะส่งผลให้ระดับไขมันในเลือด และ น้ำหนักตัวเพิ่มมากเกิน ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน ค่าความเป็นกรดด่างในช่องคลอด เสียสมดุลตามมา อีกทั้งน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น จะทำให้ร่างกายระบายความร้อนไม่ดีเท่าที่ควร มีผลทำให้ช่องคลอด เกิดความอับชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุตกขาวได้เช่นกัน

4. ผัก สมุนไพร ที่มีฤทธิ์ร้อน มีกลิ่นแรง

ผักที่มีกลิ่นแรง กลิ่นฉุน มีฤทธิ์ร้อน เช่น หน้อไม้ กุยช่าย เครื่องเทศ หัวหอม เป็นสาเหตุที่ทำให้ตกขาวมีกลิ่น และด้วยความเผ็ดร้อน ก็จะกระตุ้นการเกิดเชื้อราในช่องคลอด เพิ่มมากขึ้น ปริมาณตกขาวจึงเยอะตามไปด้วย ดังนั้นหากอยู่ในช่วงรักษาตกขาว แนะนำให้งดไปก่อนจะดีกว่า 

5. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 

การดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์ เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเหล้า เบียร์ ไวน์ ค็อกเทล มีผลทำให้ค่าความเป็นกรดด่างในช่องคลอด เสียความสมดุล แบคทีเรียดีลดน้อยลง เป็นสาเหตุตกขาวมามาก ผิดปกติได้

6. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน 

การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เป็นประจำ เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เป็นสาเหตุตกขาว ทำให้ตกขาวมีกลิ่นขึ้นมาได้ เนื่องจากเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ส่งผลให้แบคทีเรียในช่องคลอด เสียสมดุล รวมไปถึงน้ำตาลในชา กาแฟ จะเพิ่มโอกาสการติดเชื้อในช่องคลอด ขึ้นมาได้ด้วย

7. อาหารทะเล 

เป็นตกขาวห้ามกินอะไรบ้าง? อีกอย่างที่ควรทำเลยก็คือ อาหารทะเล เพราะอาหารทะเลมีสารที่กระตุ้นให้เป็นตกขาว และคันในช่องคลอดได้ หากกินอาหารทะเลบ่อย ๆ จะมีส่วนให้ตกขาวมามากผิดปกติ และ ตกขาวมีกลิ่นเหม็นคาวได้เช่นกัน

กินอาหารแก้ตกขาวแล้ว อย่าลืมเลี่ยง พฤติกรรมเหล่านี้

นอกจากการกินอาหารแก้ตกขาว รู้แล้วว่าเป็นตกขาวห้ามกินอะไรบ้าง เราแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ร่วมด้วย เพื่อให้ผลการรักษาตกขาว ดียิ่งขึ้นในเร็ววัน และลดโอกาส การเป็นตกขาวซ้ำอีก 

• ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ที่มีเพศสัมพันธ์ เพราะน้ำอสุจิ จะทำปฏิกิริยากับความเป็นกรดด่างในช่องคลอด ก่อให้เกิดตกขาวขึ้นมาได้
• รักษาความสะอาดอวัยวะเพศ หลังปัสสาวะ หรือ หลังขับถ่าย ทุกครั้ง แล้วเช็ดให้แห้งก่อนสวมกางเกงใน อย่าปล่อยให้อวัยวะเพศอับชื้น
• ทำความสะอาดอวัยวะเพศ ให้ถูกสุขลักษณะ ไม่สวนล้างช่องคลอด ไม่ใช้สบู่ถูบริเวณจุดซ้อนเร้น ไม่ใช้นิ้วล้วงเข้าไปทำความสะอาดในช่องคลอด 
• อย่าปล่อยให้เหงื่อออกใต้ร่มผ้า จนเกิดความอับชื้น
• ไม่ใส่กางเกงรัดแน่นเกินไป
• หากมีประจำเดือน ให้เปลี่ยนผ้าอนามัย ทุก 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการอับขึ้น นำไปสู่สาเหตุตกขาวได้
• หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาอนามัย หรือ สเปรย์ดับกลิ่นจุดซ่อนเร้น ให้ทำความสะอาดด้วยการใช้น้ำสะอาดอย่างเดียว เพราะช่องคลอด มีความสมดุลในตัวอยู่แล้ว
• หลีกเลี่ยงการใส่แผ่นอนามัยแบบบาง ติดต่อกันทุกวัน เพราะจะทำให้เกิดความอับชื้น เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค เสี่ยงต่อการเป็นตกขาวง่าย
• หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัย ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม
• ซักชุดชั้นในให้สะอาด  ตากให้แห้งสนิท เพราะการที่ชุดชั้นในไม่สะอาด เป็นสาเหตุทำให้เกิดตกขาว ตกขาวมีกลิ่นได้ 
• สวมกางเกงในผ้าเบาสบาย ระบายอากาศได้ดี
• ไม่กินยาปฏิชีวนะ เป็นเวลานาน ๆ หากไม่มีความจำเป็น

ดูแลจุดซ่อนเร้น ด้วยยาสมุนไพร แก้ตกขาว ไร้กลิ่นคาว ระบบภายในดี

หากพูดถึงการรักษาตกขาว ด้วยตัวเอง นอกจากการกินอาหารแก้ตกขาวแล้ว หลายคนก็คงจะนึกถึง การใช้ยาเหน็บ ยาทาเฉพาะที่ หรือ การกินยาปฏิชีวนะ ที่หาซื้อได้จากร้านขายยาทั่วไป แต่คุณสาว ๆ รู้หรือไม่ว่า อีกหนึ่งวิธี ที่จะช่วยดูแลจุดซ่อนเร้น รักษาตกขาว ตกขาวมีกลิ่น ได้เป็นอย่างดี แถมยังดีต่อระบบภายในของผู้หญิง ก็คือ การใช้ยาสมุนไพร แก้ตกขาว ในการรักษาตกขาวนั่นเอง 

เพราะยาสมุนไพร แก้ตกขาว จะเข้าไปรักษาตกขาว และ ฟื้นฟูทั้งระบบภายในผู้หญิง ลดเสี่ยงต่อการเป็นตกขาวบ่อย ๆ ได้ โดยเฉพาะ “ยาสมุนไพร แก้ตกขาวรีเพียว (Repure) จากศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ” ที่จะช่วยเข้าไปปรับสมดุลค่าความเป็นกรดด่างภายในช่องคลอด และ ดูแลระบบภายในทั้งมดลูก รังไข่ ฯลฯ ซึ่งศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ เป็นผู้ผลิตยาสมุนไพร ที่มีผู้ซื้อซ้ำ และ บอกต่อกันมากที่สุด ยาวนานกว่า 30 ปี สามารถเชื่อถือ และ ไว้วางใจได้ เพราะถือว่าเป็นผู้ผลิตยาสมุนไพร ที่มีชื่อเสียงลำดับต้น ๆ ของประเทศ

ที่สำคัญ ยาสมุนไพร แก้ตกขาวรีเพียว (Repure) ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “ยา”การันตีถึงประสิทธิภาพ ในการรักษาตกขาวได้จริง อยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ไทย และ เภสัชกร มีมาตรฐานการผลิต GMP มีผลการวิจัยรองรับ และ ได้รับการรับรองจาก อย. มาเรียบร้อยแล้ว

ยาสมุนไพร แก้ตกขาวรีเพียว (Repure) เป็นยารักษาตกขาว ชนิดรับประทาน สูตรตำรับเฉพาะ ลิขสิทธิ์หมออรรถวุฒิ ปราศจากสารเคมี สเตียรอยด์ และ เอสโตรเจน เป็นสูตรลิขสิทธิ์เดียว ที่ไม่ทำให้อ้วนผู้หญิงที่เป็นซีสต์ เนื้องอก พังผืด ก็สามารถทานได้ โดยไม่เป็นอันตราย สกัดจากสมุนไพร รักษาตกขาว 100% ที่สด ใหม่ เช่น

• ข่าหดสกัด  
• ไพลสกัด
• ขมิ้นอ้อยสกัด   
• ว่านสากเหล็กสกัด
• ฝางสกัด
• ดอกคำฝอยสกัด
• เจตมูลเพลิงแดงสกัด
• ชะเอมเทศสกัด
• มะขามป้อม

โดยยาสมุนไพร แก้ตกขาวรีเพียว (Repure) มีคุณสมบัติในการดูแลรักษาตกขาว ได้อย่างลงลึก พร้อมฟื้นฟูระบบภายในทั้งหมด ให้กลับสู่สภาวะปกติ เช่น

• รักษาตกขาวที่ผิดปกติ
• ลดปริมาณตกขาว  
• รักษาสีตกขาว ที่ผิดปกติ
• รักษาตกขาว ที่มีกลิ่นเหม็นคาว กลิ่นเปรี้ยว
• ป้องกันซีสต์ ผังผืด มดลูกโต
• แก้อาการปัสสาวะเล็ด โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีบุตร 
• แก้มดลูกหย่อน กระบังลมหย่อน
• แก้มดลูกบวม แก้มดลูกอักเสบ กระชับมดลูก กระชับช่องคลอด แก้มดลูกต่ำ
• แก้อาการปวดท้องประจำเดือน ปวดหน่วงท้องน้อย ปวดหลัง สำหรับสาว ๆ ที่ปวดท้องประจำเดือนทุกเดือน แนะนำให้ทาน
• ปรับประจำเดือน ให้มาปกติ 
• แก้มดลูกอักเสบ เยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ ปีกมดลูกอักเสบ
• ปรับน้ำหล่อลื่น ไม่ให้มากจนเกินไป ในกรณีผู้หญิงที่มีน้ำหล่อลื่นมาก  
• ภายในฟิต กระชับ แน่น
• ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย บำรุงผิวสวยใส
• เพิ่มการเผาผลาญ และ ลดไขมัน 

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

หากมีข้อสงสัยใด ๆ เพิ่มเติม สามารถคอมเม้นท์สอบถามได้ เรามีเภสัชกร และ ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพ