สาเหตุตกขาว เกิดจากอะไร? รู้ก่อน ป้องกัน รักษาได้ไม่ยาก

สาเหตุตกขาว เกิดจากอะไร? รู้ก่อน ป้องกัน รักษาได้ไม่ยาก

แชร์ได้เลยค่ะ

ตกขาว สารคัดหลั่ง ที่ถูกสร้างขึ้นมา จากระบบสืบพันธ์ุของผู้หญิง มีลักษณะเป็นเมือกใส หรือ อาจมีสีขาวขุ่น คล้ายแป้งเปียก แต่ต้องไม่มีกลิ่น และ ไม่คัน จะถือว่าเป็นปกติ ไม่เป็นอันตราย ซึ่งตกขาว มีหน้าที่คงความชุ่มชื้น ให้กับช่องคลอด หล่อลื่นช่องคลอด ขับสิ่งแปลกปลอมออกจากช่องคลอด ปรับสมดุลความเป็นกรดด่างของช่องคลอด ซึ่งโดยปกติแล้ว จะมีระดับความเป็นกรดด่าง อยู่ระหว่าง 3.5 – 4.5 ทั้งนี้คุณสาว ๆ ทั้งหลาย ต้องรู้จักสังเกตลักษณะตกขาว ของตนเอง หากตกขาวมีกลิ่นเหม็น มีสีเปลี่ยนไป หรือ ตกขาวมามากผิดปกติ เราต้องรู้ถึงสาเหตุตกขาว ว่าเกิดจากอะไร พฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา ผิดแปลกไปจากเดิมหรือไม่ จะได้ป้องกันตกขาวผิดปกติ และ รักษาตกขาว ให้กลับสู่สภาวะปกตินั่นเอง

สาเหตุตกขาว มีหลายสาเหตุ แต่ไม่จำเป็น ต้องพบแพทย์เสมอไป สามารถรักษาตกขาว ด้วยตัวเองได้ที่บ้าน

สาเหตุตกขาว เกิดจากสิ่งนี้

สาเหตุตกขาว แบ่งออกเป็น 2 สาเหตุหลักด้วยกัน ดังนี้

สาเหตุตกขาวจากการติดเชื้อในช่องคลอด 
ติดเชื้อแบคทีเรีย : มักเกิดจากเพศสัมพันธ์ ทานอาหารรสจัด ของหมัก ของดอง การถูสบู่บริเวณจุดซ้อนเร้น สวนล้างช่องคลอด ใส่ห่วงอนามัยคุมกำเนิด ทานยาปฏิชีวนะ ช่องคลอดเสียความสมดุล
ติดเชื้อรา : มักเกิดจากการทานยาคุมกำเนิด ยาปฏิชีวนะ ใช้ยาสเตียรอยด์ ภูมิคุ้มกันตก โรคเบาหวาน
ติดเชื้อทริโคโมแนส (Trichomoniasis) : เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

1. สาเหตุตกขาว ที่เกิดจากการติดเชื้อในช่องคลอด ซึ่งมีหลายเชื้อด้วยกัน หลัก ๆ ที่พบได้บ่อย เช่น

  • สาเหตุตกขาว จากการติดเชื้อแบคทีเรีย : มักเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ การทานอาหารรสจัด ของหมัก ของดอง การถูสบู่บริเวณจุดซ้อนเร้น ชอบสวนล้างช่องคลอด ใส่ห่วงอนามัยคุมกำเนิด ทานยาปฏิชีวนะติดต่อกันนาน ช่องคลอดเสียความสมดุล จนทำให้ช่องคลอดอักเสบ จากเชื้อแบคทีเรีย เป็นสาเหตุตกขาวมีกลิ่นเหม็น รู้สึกคันขึ้นมาได้
  • สาเหตุตกขาว จากการติดเชื้อรา : มักเกิดจากการทานยาคุมกำเนิด ยาปฏิชีวนะ การใช้ยาสเตียรอยด์ ภูมิคุ้มกันตก ป่วยเป็นโรคเบาหวาน เป็นต้น จนทำให้ตกขาวมีลักษณะขาวข้น คล้ายนมมบูด หรือ อาจมีสีเหลือง มีกลิ่น รู้สึกคันบริเวณปากช่องคลอด หากเป็นมาก ปากช่องคลอดอาจบวมแดงร่วมด้วย 
  • สาเหตุตกขาว จากการติดเชื้อทริโคโมแนส (Trichomoniasis) : เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จนทำให้ตกขาวมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ตกขาวมามากผิดปกติ สีตกขาวเปลี่ยนไป เป็นสีเหลือง หรือ สีเขียว ตกขาวเป็นฟอง มีอาการบวม แดง คัน แสบอวัยวะเพศ และ อาจมีเลือดออกจากช่องคลอดได้

2. สาเหตุตกขาว ที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ มีหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น

สาเหตุตกขาวที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ
ขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน 
ไม่ใช้ถุงยางอนามัย 
รักษาความสะอาดอวัยวะเพศไม่ดี
สวนล้างช่องคลอด 
ถูสบู่บริเวณจุดซ้อนเร้น 
เหงื่อออกใต้ร่มผ้า 
ใส่กางเกงรัดแน่น
ลืมถอดผ้าอนามัยแบบสอด
ใส่ผ้าอนามัยแผ่นเดิมนานเกิน 4 ชั่วโมง
ใช้น้ำยาอนามัย สเปรย์ดับกลิ่นจุดซ่อนเร้นบ่อยไป
ใช้แผ่นอนามัยเป็นประจำ 
ซักชุดชั้นในไม่สะอาด
ทานอาหารรสจัด ของหมัก ของดอง ผักที่มีกลิ่นแรง ของมัน ของทอด 
ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มคาเฟอีน
  • การขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน จนทำให้ช่องคลอดแห้ง เกิดการอักเสบ สูญเสียความสมดุลในช่องคลอด จนเป็นสาเหตุตกขาวมีกลิ่น ขึ้นมาได้
  • การมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย ก็เป็นสาเหตุตกขาวได้ เพราะน้ำอสุจิ จะทำปฏิกิริยากับความเป็นกรดด่างในช่องคลอด
  • การรักษาความสะอาดอวัยวะเพศ หลังปัสสาวะ หรือ หลังขับถ่าย ไม่ดีพอ เช่น ล้างไม่สะอาด ไม่เช็ดให้แห้งก่อนสวมกางเกงใน 
  • การทำความสะอาดอวัยวะเพศ ผิดสุขลักษณะ เช่น สวนล้างช่องคลอด การถูสบู่บริเวณจุดซ้อนเร้น การใช้นิ้วล้วงเข้าไปทำความสะอาดในช่องคลอด 
  • เกิดความอับชื้น เช่น มีเหงื่อออกใต้ร่มผ้า ใส่กางเกงรัดแน่นเกินไป
  • ลืมถอดผ้าอนามัยแบบสอดไว้ในช่องคลอด
  • การใส่ผ้าอนามัยแผ่นเดิม ขณะมีประจำเดือน นานเกิน 4 ชั่วโมง
  • ใช้น้ำยาอนามัย หรือ สเปรย์ดับกลิ่นจุดซ่อนเร้น บ่อยจนเกินไป
  • ใช้แผ่นอนามัยเป็นประจำ จนทำให้เกิดความอับชื้น
  • การซักชุดชั้นในไม่สะอาด ล้างผงซักฟอกออกไม่หมด ตากไม่แห้งสนิท ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุตกขาว ที่สาว ๆ อาจคาดไม่ถึง ด้วยความสกปรก และ ความอับชื้น ทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรก จนทำให้เกิดเป็นตกขาว ตกขาวมีกลิ่น ขึ้นมาได้เช่นกัน 
  • การทานอาหารรสจัด เป็นประจำ เป็นตัวกระตุ้น ทำให้อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้น ทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหาร หลั่งมากเกินไป ลำไส้แปรปรวน แบคทีเรียในกระเพาะอาหาร เสียความสมดุล เป็นผลให้แบคทีเรียในช่องคลอดเสียความสมดุล กลายเป็นตกขาวขึ้นมาได้ 
  • การทานของหมัก ของดอง เป็นประจำ มีส่วนทำให้ช่องคลอดอักเสบ สาเหตุตกขาวมากขึ้น ตกขาวมีกลิ่นเหม็นเหมือนปลาเค็ม สีตกขาวเปลี่ยน และ อาจมีอาการคันช่องคลอดได้ด้วย
  • การทานผักที่มีกลิ่นแรง กลิ่นฉุน มีฤทธิ์ร้อน เช่น หน่อไม้ กุยช่าย เครื่องเทศ หัวหอม เป็นสาเหตุตกขาวมีกลิ่น ตามมาได้
  • การทานของมัน ของทอด ส่งผลให้ระดับไขมันในเลือด เพิ่มมากเกิน ทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน ความเป็นกรดด่างในช่องคลอด เสียความสมดุล ซึ่งเป็นสาเหตุตกขาวได้เช่นกัน 
  • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นประจำ จะทำลายความสมดุล ในช่องคลอด เป็นสาเหตุตกขาวมามาก ผิดปกติ
  • เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เป็นประจำ เป็นสาเหตุตกขาว ตกขาวมีกลิ่น เนื่องจากเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ส่งผลให้แบคทีเรียในช่องคลอด เสียความสมดุล รวมไปถึงน้ำตาลในชา กาแฟ จะเพิ่มโอกาสการติดเชื้อในช่องคลอด ขึ้นมาได้

ตกขาวมีกลิ่น คัน ต้องหาหมอไหม รักษาตกขาว อย่างไรดี?

ตกขาวมีกลิ่น คัน แต่ไม่เปลี่ยนสี ไม่ปวด ไม่บวม ไม่แสบอวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องหาหมอ แต่ถ้ามีกลิ่นแรงมาก มีสีเขียว สีเทา มีเลือดปน มีฟอง ปวด บวม แดง คัน แสบ จำเป็นต้องหาหมอ เพราะเป็นสัญญาณเตือน การติดเชื้อภายใน ที่ผิดปกติ

เมื่อทราบถึงสาเหตุตกขาว ว่าเกิดจากอะไรแล้ว หากตกขาวของคุณสาว ๆ เริ่มมีกลิ่น รู้สึกคัน แต่ตกขาวยังไม่เปลี่ยนสี ไม่มีอาการปวด บวม หรือ แสบอวัยวะเพศ เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียทั่วไป ถือว่าเป็นอาการที่สามารถหายเอง ไม่จำเป็นต้องหาหมอ เพียงแค่ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ทานอาหารที่มีประโยชน์ หยุดทานอาหารที่จะกระตุ้น ให้เกิดตกขาวผิดปกติ นอนหลับให้เพียงพอ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ตกขาว หายไปได้ 

แต่หากตกขาวมีกลิ่นแรงมาก ตกขาวมีสีเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น มีสีเขียว สีเหลืองปนเขียว มีสีเทา มีเลือดปน มีกลิ่นเปรี้ยว มีกลิ่นคาว คัน มีฟอง มีเลือดออก รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน แนะนำให้ไปหาหมอ หรือ จะลองปรึกษาเภสัชกร เพื่อซื้อยารักษาตกขาว มารักษาด้วยตัวเองก่อนก็ได้ เพราะอาจเกิดการติดเชื้อรา เชื้อทริโคโมแนส ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ยารักษาตกขาว ที่นิยมใช้ตามหลักแพทย์แผนปัจจุบัน มีดังนี้

  • ยารักษาตกขาว ชนิดเหน็บ หรือ สอด

เป็นวิธีรักษาตกขาว ที่เห็นผลเร็ว วิธีใช้ คือ ล้างมือให้สะอาด แกะยาออกมา แล้วจุ่มน้ำเล็กน้อย เพื่อให้ยานิ่มขึ้น จากนั้นนอนหงาย ชันเข่าขึ้นมา แยกขาออกเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ ใช้นิ้วดันยาด้านที่มีลักษณะมนกว่า เข้าไปในช่องคลอด โดยดันเข้าไปให้ลึกที่สุด แล้วนอนนิ่ง ๆ ค้างไว้ประมาณ 15 นาที เพื่อป้องกันยา ไหลออกจากช่องคลอด

แม้ว่าการรักษาตกขาว ด้วยการใช้ยาเหน็บ จะมีข้อดี คือ เห็นผลเร็ว แต่ก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน เพราะยารักษาตกขาวแบบเหน็บ จะเลอะง่าย ต้องเหน็บติดต่อหลายวัน อาจมีผลข้างเคียง เช่น ระคายเคือง แสบ คันช่องคลอด หากใช้ผิดวิธี ล้างมือไม่สะอาด อาจเสี่ยงต่อการเป็นตกขาวมากขึ้น หรือ ติดเชื้อได้ อีกทั้งควรใช้สำหรับที่แน่ใจแล้วว่า มีเชื้อราเท่านั้น เพราะหากใช้ไม่ตรงสาเหตุ จะเกิดผลเสียมากกว่า

  • ยารักษาตกขาว ชนิดทาภายนอก

ยารักษาตกขาว ชนิดทาภายนอก เช่น โคลไตรมาโซล (Clotrimazole) ไมโคนาโซล (Miconazole) ไทโอโคนาโซล (Tioconazole) เป็นยารักษาตกขาว ที่เหมาะกับผู้ติดเชื้อ มีเชื้อราบริเวณช่องคลอด อาจมีผลข้างเคียงขณะใช้ เช่น แสบ คัน ระคายเคือง บวม แดงบริเวณปากช่องคลอด

  • ยาปฏิชีวนะ

ยาปฏิชีวนะ สำหรับรักษาตกขาว เช่น ยาเมโทรนิดาโซล (Metronidazole) ยาคลินดามัยซิน (Clindamycin) ยาฟลูโคนาโซล (Fluconazole) เป็นต้น เหมาะกับผู้ที่เป็นตกขาวมานาน ตกขาวมีกลิ่น ตกขาวเปลี่ยนสี ติดเชื้อ ซึ่งการทานยาปฏิชีวนะ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ หรือ เภสัชกร โดยเฉพาะผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ มีโรคประจำตัว เพราะมีผลข้างเคียง และ อันตราย ต้องทานติดต่อกันหลายวัน

ของดีมีอยู่จริง! ยาสมุนไพร แก้สาเหตุตกขาว ถึงต้นตอ

นอกจากการทานยารักษาตกขาว จะเป็นวิธีรักษาตกขาวได้แล้ว จะดีกว่าไหม? หากคุณสาว ๆ ทุกคน สามารถรักษาตกขาวถึงต้นตอ ด้วยการปรับสมดุลภายใน เพื่อเป็นการป้องกันตกขาวผิดปกติในอนาคต แถมคนที่ยังไม่เป็นตกขาว ก็สามารถทาน เพื่อป้องกันตกขาวเกิดขึ้นกับตัว จนขาดความมั่นใจได้ หากอยากสัมผัสความรู้สึกนี้ล่ะก็ เราแนะนำให้ทานยาสมุนไพร แก้ตกขาว

เหตุผลก็เพราะว่า ฤทธิ์ของสมุนไพร ให้ผลทั้งแง่การรักษา ฟื้นฟู และป้องกันได้ ทั้งนี้จำเป็นต้องเลือก ยาสมุนไพร แก้ตกขาว จากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ มีความเชี่ยวชาญด้านยาสมุนไพร รักษาตกขาวจริง ๆ เช่น ยาสมุนไพรรีเพียว (Repure) จากศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ ผู้ผลิตยาสมุนไพร ที่มีผู้ซื้อซ้ำ และ บอกต่อกันมากที่สุด ยาวนานกว่า 30 ปี

ยาสมุนไพร แก้ตกขาว Repure แก้ลึก ถึงสาเหตุตกขาว ปรับสมดุลภายใน ลดกลิ่น คาว คัน

ยาสมุนไพร แก้ตกขาวรีเพียว (Repure) เป็นยารักษาตกขาว ชนิดรับประทาน สูตรตำรับเฉพาะ ลิขสิทธิ์หมออรรถวุฒิ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “ยา” การันตีถึงประสิทธิภาพ ในการรักษาตกขาวได้จริง อยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ไทย และ เภสัชกร มีมาตรฐานการผลิต GMP มีผลการวิจัยรองรับ และ ได้รับการรับรองจาก อย. มาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่า ปลอดภัยต่อการทานอย่างแน่นอน 

ทั้งนี้ ยาสมุนไพร แก้ตกขาวรีเพียว (Repure) สกัดจากสมุนไพร รักษาตกขาว เข้มข้น 100% ที่สด ใหม่ ปราศจากสารเคมี สเตียรอยด์ และ เอสโตรเจน เช่น

  • ข่าหดสกัด  
  • ไพลสกัด
  • ขมิ้นอ้อยสกัด   
  • ว่านสากเหล็กสกัด
  • ฝางสกัด
  • ดอกคำฝอยสกัด
  • เจตมูลเพลิงแดงสกัด
  • ชะเอมเทศสกัด
  • มะขามป้อม

ด้วยประสิทธิภาพของสมุนไพร ที่สกัดออกมาเป็นยารักษาตกขาวรีเพียว (Repure) จะช่วยรักษาตกขาว ปรับสมดุลภายในของผู้หญิง ให้ดีขึ้น เป็นการรักษาลึก ถึงสาเหตุตกขาว และป้องกัน การเป็นตกขาวซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้ เช่น

  • รักษาสีตกขาว ที่ผิดปกติ
  • รักษาตกขาวมีกลิ่น ดับกลิ่นจุดซ่อนเร้น  
  • ลดปริมาณตกขาว สำหรับผู้ที่มีตกขาว มากผิดปกติ
  • ป้องกันตกขาวผิดปกติ ป้องกันซีสต์ ผังผืด มดลูกโต
  • แก้อาการปัสสาวะเล็ด โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีบุตร 
  • แก้มดลูกหย่อน กระบังลมหย่อน
  • แก้มดลูกบวม แก้มดลูกอักเสบ กระชับมดลูก กระชับช่องคลอด แก้มดลูกต่ำ
  • แก้อาการปวดท้องประจำเดือน ปวดหน่วงท้องน้อย ปวดหลัง สำหรับสาว ๆ ที่ปวดท้องประจำเดือนทุกเดือน แนะนำให้ทาน
  • ปรับประจำเดือน ให้มาปกติ 
  • แก้มดลูกอักเสบ เยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ ปีกมดลูกอักเสบ
  • ปรับน้ำหล่อลื่น ไม่ให้มากจนเกินไป ในกรณีผู้หญิงที่มีน้ำหล่อลื่นมาก  
  • ภายในฟิต กระชับ แน่น
  • ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย บำรุงผิวสวยใส

จะเห็นได้ว่า จากประโยชน์ที่ได้รับ จากยาสมุนไพร แก้ตกขาวรีเพียว (Repure) สาว ๆ ที่ไม่เป็นตกขาว หรือ มีตกขาวที่ปกติ ก็สามารถทานได้ เพราะช่วยปรับสมดุลภายใน ดูแลระบบภายใน อีกทั้งเป็นสูตรปราศจากเอสโตรเจน เป็นสูตรลิขสิทธิ์เดียว ที่ไม่ทำให้อ้วน และ มีส่วนผสมของสมุนไพร อีกทั้งช่วยเพิ่มการเผาผลาญ และ ลดไขมัน ผู้หญิงที่เป็นซีสต์ เนื้องอก พังผืด ก็สามารถทานได้ โดยไม่เป็นอันตราย 

ทั้งนี้ แนะนำให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมการใช้ชีวิต และ หลีกเลี่ยงอาหาร ที่กระตุ้น ทำให้เกิดตกขาว ตกขาวมีกลิ่น ควบคู่ไปด้วย เช่น หลีกเลี่ยงของหมัก ของดอง ปลาร้า ผักกลิ่นฉุน อาหารรสจัด กาแฟ ชา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รักษาความสะอาดจุดซ้อนเร้น ด้วยน้ำเปล่า ใส่ชุดชั้นในที่ระบายอากาศได้ดี เพื่อการรักษาตกขาว ที่เห็นผลเร็ว และ ชัดเจน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

หากมีข้อสงสัยใด ๆ เพิ่มเติม สามารถคอมเม้นท์สอบถามได้ เรามีเภสัชกร และ ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพ


แชร์ได้เลยค่ะ

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top