“สิว” ปัญหาผิวหน้า ที่ทำลายความมั่นใจ ของใครหลายคน มักเกิดในช่วงวัยรุ่น และบางคนก็อาจมีสิวขึ้น ไปจนถึงวัย 40 ปี เลยก็เป็นได้ โดยสาเหตุสิว มาจากการอักเสบ ของต่อมไขมันในร่างกาย สามารถเกิดขึ้นได้ ทั้งบริเวณ ใบหน้า ลำคอ แผ่นหลัง หน้าอก ต้นแขน ฯลฯ ทั้งนี้ประเภทสิว แบ่งออกเป็นหลายชนิด เช่น สิว หัว ขาว, สิว หัว ช้าง, สิว ผด ฯลฯ วิธีรักษา สิว ก็มีหลากหลายวิธี ด้วยกัน ดังนั้นหากคุณกำลังเป็นสิวอยู่ อยากรักษา สิวให้หาย แล้วไม่กลับมาเป็นสิวซ้ำซากอีก เรามีวิธีมาบอก สามารถติดตามได้ ในบทความนี้
ทำความรู้จัก ประเภทสิว มีกี่ชนิด
การรู้จักประเภทสิว จะช่วยให้คุณรักษา สิว ได้ถูกวิธี เพราะสิว มีหลายประเภท ประเภทสิวแต่ละชนิด ก็มีวิธีรักษา แตกต่างกันออกไป สิวบางชนิดแค่กด สิวออก ก็ทำให้สิวหายได้แล้ว สิวบางประเภท ห้ามบีบ สิว เด็ดขาด เป็นต้น ทั้งนี้ประเภทสิวหลัก ๆ แบ่งออกเป็น
1. สิว หัว ดำ (Blackheads)
ประเภทสิว หัว ดำ คือ สิว อุด ตันขนาดเล็ก ที่อุดตันอยู่ในรูขุมขน แต่เป็นแล้วจะไม่รู้สึกเจ็บ หรือ ปวดใด ๆ สาเหตุสิวประเภทนี้ เกิดจากร่างกาย ผลิตไขมัน มาเลี้ยงบนใบหน้ามากเกินไป แล้วน้ำมันบนใบหน้า เกิดปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ สารเมลานิน หรือ เม็ดสีที่เซลล์ผิวหนัง จึงเปลี่ยนไขมัน เป็นสีดำ ทำให้เห็นเป็นสิว หัว ดำนั่นเอง
แนะนำวิธีรักษา สิว หัว ดำ เบื้องต้น : ล้างหน้าให้สะอาด ใช้โฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม หลีกเลี่ยงการเอามือสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ และ ควรใช้ยารักษา สิวอุดตัน ทั้งนี้สิว หัวดำ เป็นประเภทสิว ที่สามารถกด สิวออกได้
2. สิว หัว ขาว (Whiteheads)
ประเภทสิว ชนิดสิว หัว ขาว เป็นสิว อุด ตัน ตุ่มเล็ก ๆ แข็ง ๆ เหมือนไต ที่หัวปิดอยู่ ซึ่งสิว หัว ขาว สามารถกลายเป็นสิว อักเสบ ที่รุนแรงขึ้นได้ตามการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือ การใช้เครื่องสำอาง ครีมทาหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำมัน
แนะนำวิธีรักษา สิว หัว ขาว เบื้องต้น : ห้ามกด สิว หรือ บีบ สิวเด็ดขาด เพื่อป้องกันการเกิดสิว อักเสบ ทั้งนี้ให้ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน หลีกเลี่ยงการเอามือสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ และ ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง หรือ เภสัชกร เพื่อใช้ยารักษา สิว ที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ ในการละลายหัวสิว ให้สิว หัว ขาว เปิดหัวออกมา
3. สิว เสี้ยน (Comedo)
สิว เสี้ยน เป็นประเภทสิว อุด ตัน ในรูขุมขน มีลักษณะเหมือนเสี้ยนเล็ก ๆ สีขาว ซึ่งเกิดจากการสะสม ของขี้ไคล ที่ไปรวมกับขนอ่อนในรูขุมขน มักเกิดขึ้นบริเวณ จมูก หน้าผาก คาง เป็นต้น
แนะนำวิธีรักษา สิว เสี้ยน เบื้องต้น : ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอาง หรือ สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน และปรึกษาแพทย์ผิวหนัง หรือ เภสัชกร เพื่อใช้ยารักษา สิวที่ช่วยลดสิว อุด ตัน
4. สิวตุ่มนูนแดง (Papule)
สิวตุ่มนูนแดง เป็นประเภทสิวขนาดเล็ก ไม่มีหัว สามารถกลายเป็นสิว อักเสบได้ สาเหตุสิวประเภทนี้ เกิดจากแบคทีเรียอุดตันในรูขุมขน จึงทำให้ร่างกายสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวขึ้นมา ต่อสู้กับแบคทีเรีย จึงเกิดเป็นสิวตุ่มสิวนูนแดง ขึ้นมานั่นเอง
แนะนำวิธีรักษา สิวตุ่มนูนแดง เบื้องต้น : ห้ามกด สิว หรือ บีบ สิว เด็ดขาด เพื่อป้องกันการอักเสบ และปรึกษาแพทย์ผิวหนัง หรือ เภสัชกร เพื่อใช้ยาทาสิว ที่มีคุณสมบัติช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย
5. สิว อักเสบ (Nodular Acne)
ประเภทสิว อักเสบ นั้นมีลักษณะเป็นตุ่มแข็ง สีแดง ไม่มีหัว และเกิดอยู่ใต้ผิวหนัง สาเหตุสิวประเภทนี้ เกิดจากใบหน้ามัน ใบหน้าสกปรก แล้วมีแบคทีเรีย เข้าไปอยู่ในรูขุมขน เป็นแล้วจะรู้สึกเจ็บมาก ห้ามกด สิว หรือ บีบสิวเองเด็ดขาด เพราะจะยิ่งทำให้เกิดสิว อักเสบ มากขึ้นไปอีก และกลายเป็นแผลเป็นได้
แนะนำวิธีรักษา สิว อักเสบ เบื้องต้น : ล้างหน้าให้สะอาด ห้ามใช้สครับหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงสิว อักเสบเพิ่ม จากนั้นให้ใช้ยาแต้มสิว ตามคำแนะนำของแพทย์ผิวหนัง หรือ เภสัชกร
6. สิวหัวหนอง (Pustules)
สิวหัวหนอง คือหนึ่งในประเภทของสิว อักเสบ มีลักษณะเป็นตุ่มแดง และ มีหนองอยู่ที่หัวสิว เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน ที่มีน้ำมัน แบคเทีเรีย และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เป็นแล้วจะรู้สึกเจ็บ ปวด เล็กน้อย ทั้งนี้ประเภทสิวหัวหนองมี ทั้งขนาด และ ขนาดใหญ่ แต่ไม่เป็นอันตราย เพราะเป็นสิว อักเสบในระดับตื้น ของชั้นผิวหนัง แต่จำเป็นต้องรักษา สิวชนิดนี้ เพื่อป้องกันการอักเสบเพิ่มมากขึ้น
แนะนำวิธีรักษา สิวหัวหนอง เบื้องต้น : ล้างหน้าให้สะอาด ห้ามใช้สครับหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงสิว อักเสบเพิ่ม จากนั้นปรึกษาแพทย์ผิวหนัง หรือ เภสัชกร เพื่อใช้ยาทาสิว ที่มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว และ ต้านเชื้อแบคทีเรีย
7. สิว หัว ช้าง (Cyst)
ประเภทสิว หัว ช้าง นี้ ถือว่าเป็นสิว อักเสบที่รุนแรงมากที่สุด สิว หัว ช้าง จะมีลักษณะเป็นสิว อักเสบเม็ดใหญ่มาก ซึ่งเกิดจากการเป็นสิวเม็ดเล็ก ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ ขยายเป็นสิวเม็ดใหญ่ ก้อนแข็ง และข้างในสิว หัว ช้าง จะเต็มไปด้วยเลือด และ หนอง เป็นแล้วจะรู้สึกเจ็บมาก มักเกิดกับคนผิวหน้ามันมาก ๆ
แนะนำวิธีรักษา สิว หัว ช้าง เบื้องต้น : ห้ามกด สิว หรือ บีบ สิวเด็ดขาด ให้รีบไปพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
รู้ไหม? สาเหตุสิวบนใบหน้า เกิดจากหลายปัจจัย
รู้จักประเภทสิว แต่ละชนิดไปแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คนเป็นสิว ต้องทำรู้ ก็คือปัจจัยที่เป็นสาเหตุ ของการเกิดสิวบนใบหน้าตัวเอง เพราะหากรู้ว่าสิวของตัวเอง เกิดจากอะไร ก็จะช่วยให้การรักษา สิว ง่ายยิ่งขึ้น โดยปัจจัยอันเป็นสาเหตุสิวบนใบหน้า มีดังต่อไปนี้
- การเปลี่ยนแปลง ของฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ซึ่งมีระดับสูง ในช่วงวัยรุ่น โดยฮอร์โมนชนิดนี้ จะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันบนใบหน้า มีขนาดใหญ่ขึ้น เกิดการสร้างไขมัน ออกมามากขึ้น กลายเป็นประเภทสิว ชนิดต่าง ๆ นั่นเอง
- การผลิตน้ำมัน ของต่อมไขมันในผิว มากเกินไป
- ผิวหนังชั้นนอกสุด หนาตัวผิดปกติ ทำให้เกิดการอุดตันของท่อต่อมไขมัน
- ใบหน้าสกปรก มีแบคทีเรียสะสมในรูขุมขน
- สภาพผิวหน้า เช่น ผิวมัน ที่สามารถเป็นสิวได้ง่าย หรือ ผิวมีรูขุมขนกว้าง ทำให้เกิดการอุดตันของสิ่งสกปรกได้ง่าย
- กระบวนการอักเสบ ของร่างกาย ทำให้เกิดสิว อักเสบ บวม แดง
- การทานอาหารบางชนิด โดยเฉพาะของมัน ของทอด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เค้ก ขนมหวาน เป็นต้น
- การใช้ครีมทาหน้า และ เครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน น้ำหอม สารเสตียรอยด์ หรือสารต้องห้ามต่าง ๆ
- การใช้สเปรย์ หรือ เจลจัดแต่งทรงผม ที่มีส่วนทำให้เกิดสิว ผด สิว อุด ตัน สิว เสบ บริเวณกรอบหน้า หน้าผาก
- ความเครียด
- กรรมพันธุ์
- สภาพอากาศ ฝุ่นละออง มลภาวะที่เป็นพิษ แทรกซึมเข้าสู่ผิวหนัง
- การเสียดสีของผิวหน้า กับวัตถุต่าง ๆ เช่น หน้ากากอนามัย ปลอกหมอน โทรศัพท์มือถือ
อย่ากด สิว หรือ บีบ สิว ถ้ายังไม่รู้สิ่งนี้
เราเข้าใจดีว่า เมื่อเป็นสิวแล้ว ก็อยากให้สิวหายเร็ว ๆ แต่การกด สิว หรือ บีบ สิว หากทำไม่ถูกวิธี ก็มีโอกาสสูงมาก ที่จะทำให้สิว อักเสบ เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นคุณจำเป็นต้องทราบก่อนว่า ทำไมถึงไม่ควรกด สิว หรือ บีบ สิวเอง
- บางครั้งสิว อักเสบ มีหลายหัว หากว่ากด สิว หรือ บีบ สิวแล้วเอาออกไม่หมด มีโอกาสเสี่ยง กลายเป็นสิวหัวหนอง เกิดการบวม แดง สิว อักเสบ มากยิ่งขึ้น
- มีโอกาสที่จะเกิดสิว เพิ่มหลายเม็ด บริเวณที่บีบ สิว หรือ กด สิวไป เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียกระจายตัว
- หากกด สิว หรือ บีบ สิวแรง ๆ จะทำให้ผิวบริเวณนั้น ได้รับการบาดเจ็บ ผิวอ่อนแอลง และ มีโอกาสเกิดสิวซ้ำใหม่บริเวณนั้นได้
- มีโอกาสเกิดรอยแดง รอยดำ และ แผลเป็นได้
- หากมือสกปรกแล้วไปบีบ สิว ก็มีโอกาสที่เชื้อโรค และ สิ่งสกปรก จะเข้าไปทำให้เกิดสิวมากขึ้น
แนะวิธีรักษา สิว พร้อมปรับพฤติกรรม ช่วยสิวหายไว
ด้วยประเภทสิว ที่มีหลายชนิด การรักษา สิว จึงมีด้วยกันหลายวิธี ทั้งการใช้ยาทาเฉพาะพี่ การทานยา การเลเซอร์ การฉีดยา ฯลฯ เช่น
1. การใช้ยาทารักษา สิว เฉพาะที่
การใช้ยาทารักษา สิว เฉพาะที่ มีอยู่หลายกลุ่มด้วยกัน เช่น
- ยาปฏิชีวนะ เพื่อต้านเชื้อแบคทีเรีย
- ยากลุ่ม Benzoyl Peroxide ที่ช่วยลดสิว อุด ตัน และ ลดสิว อักเสบ
- ยาในกลุ่มวิตามินเอ ที่ช่วยลดการเกิดสิว อุด ตัน ทำให้สิว อุด ตัน หลุดง่าย
- ยาละลายหัวสิว ฯลฯ
ทั้งนี้ ต้องทำความเข้าใจว่า ยาทารักษา สิว เฉพาะที่ มีผลข้างเคียง อาจทำให้เกิดการระคายเคือง เกิดรอยแดง แห้ง หรือ ผิวหน้าลอกได้ และ ไม่ควรใช้ติดต่อกันนาน
2. การทานยารักษา สิว
หากประเภทสิว ที่เกิดบนใบหน้า เกิดการอักเสบ อย่างรุนแรง สิวขึ้นเยอะ หรือ เป็นมานาน รักษา สิวด้วยการทายาแล้วไม่ดีขึ้น แพทย์ผิวหนัง จะแนะนำให้ทานยารักษา สิว ร่วมด้วย เช่น ยาปฏิชีวนะในกลุ่ม tetracycline, doxycycline, macrolide, oral retinoid เป็นต้น
ทั้งนี้ยารักษา สิวชนิดรับประทาน เป็นยาอันตราย จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทาน เพราะมีผลต่อการทำงานของตับ ไต ระดับไขมันในเลือด และมีอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปากแห้งเป็นขลุย ฯลฯ ซึ่งไม่ควรทานติดต่อกันนานเกิน 3 เดือน ที่สำคัญห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ และ ให้นมบุตร เมื่อหยุดยาแล้วควรคุมกำเนิด 1 เดือน เพราะเสี่ยงต่อบุตรพิการได้ อีกทั้งพอหยุดทานสักพัก ก็มีโอกาสเกิดสิวใหม่ขึ้นซ้ำ
3. การเลเซอร์รักษา สิว
การเลเซอร์รักษา สิว เป็นการใช้คลื่นแสงที่มีพลังงานเข้มข้นสูง สามารถรักษาสิวได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น สิว อุด ตัน, สิว อักเสบ, สิว ผด, สิว หัว ขาว, รอยแดง รอยดำ ฯลฯ ซึ่งการเลเซอร์ รักษา สิว มีด้วยกันหลายประเภท เช่น
- เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Laser) ใช้รักษา สิว อุด ตัน รอยแดง รอยดำ รอยแผลเป็นหลุมสิว
- นวัตกรรมแสงบำบัด (Light therapy) ช่วยฆ่าเชื้อสิว ลดสิว อักเสบ ควบคุมความมัน
- เลเซอร์วีบีม (V beam) ช่วยลดรอยแดงจากสิว
- พิโคเลเซอร์ (Pico Laser) คิวสวิตช์เลเซอร์ (Q-switch laser) ช่วยลดรอยดำจากสิว
- ดูโอ้ เยลโล่ว เลเซอร์ (Dual Yellow Laser) ช่วยรักษา สิว รอยสิว ลดรอยดำ รอยแดง จากสิวหน้ากระจ่างใส
ทั้งนี้ การเลเซอร์รักษา สิว ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ กลับสลับหมุนเวียนเป็นใหม่เหมือนเดิม อีกทั้งมีราคาที่ค่อนข้างสูง จำเป็นต้องทำหลายครั้ง อย่างสม่ำเสมอ
4. การฉีดยา รักษา สิว
การฉีดยา รักษา สิว เหมาะกับผู้ที่มีสิว อักเสบ เม็ดใหญ่ บวม แดง จับแล้วเจ็บ มีหนอง ตามประเภทสิว เช่น สิว หัว ช้าง, สิวหัวหนอง, สิวตุ่มนูนแดง เป็นต้น โดยยาฉีดรักษา สิว เป็นยาสเตียรอยด์ (Steroid) ซึ่งข้อดีคือ ช่วยลดการอักเสบ ทำให้สิวยุบเร็ว ลดการเกิดหลุมสิว แต่ตอนฉีดค่อนข้างเจ็บมาก อาจเกิดรอยช้ำหลังจากฉีด มีผลเสียระยะยาว ไม่ควรฉีดมากเกินไป จะทำให้รักษายากขึ้นเรื่อย ๆ ภายหลัง
5. การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อรักษา สิว และ ป้องกันไม่ให้สิวขึ้นใหม่ เช่น
- ไม่บีบ สิว หรือ กด สิวเอง หากไม่ชำนาญ
- ไม่แคะ แกะ เกาสิว
- เช็ดเครื่องสำอางให้สะอาด
- ไม่ล้างหน้าบ่อย ๆ ควรล้างเพียงวันละ 2 ครั้ง คือ เช้า และ ก่อนนอน หรือ ล้างหลังออกกำลังกายเสร็จ
- ไม่ขัดถูผิวหน้าแรง ๆ
- ไม่เอามือสัมผัสหน้าบ่อย ๆ
- ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ทุกสัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม หรือ เลือกชนิดที่ปราศจากน้ำมัน น้ำหอม
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารขยะ ของมัน ของทอด
- ทานผัก ผลไม้ ให้มากยิ่งขึ้น
- หลีกเลี่ยงการอยู่ท่ามกลางแดดจัด
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า และ บำรุงผิวหน้า ที่อ่อนโยนต่อผิว ปราศจากน้ำมัน น้ำหอม สเตียรอยด์ และสารต้องห้ามต่าง ๆ
- สระผมเป็นประจำ ด้วยแชมพูที่ปราศจากน้ำมัน สูตรอ่อนโยน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- สระผมทุกครั้ง หลังออกกำลังกายเสร็จ
รักษา สิวจากภายใน ด้วย ยา สมุนไพร รักษา สิว
เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ เมื่อเป็นสิว ไม่ว่าประเภทสิวนั้น จะเป็นสิว ผด, สิว อุด ตัน, สิว อักเสบ ฯลฯ ก็อยากหาวิธีที่ทำให้สิวหาย สิวยุบเร็ว แต่เราอยากให้ทุกคนได้ลองคิดอีกแง่ว่า จะดีกว่าไหม? หากสิวค่อย ๆ ยุบหาย สุขภาพภายในดีขึ้น ทำให้สิว ไม่กลับมาขึ้นซ้ำซากด้วย ซึ่งเป็นการรักษา สิว จากภายใน ที่เห็นผลดี ในระยะยาว เพราะหากรักษา สิว ไม่ถูกวิธี รักษาไม่ถึงต้นตอ ก็ไม่มีทางหาย และวิธีที่จะช่วยรักษา สิวแบบลงลึก ถึงภายใน นั่นก็คือ การกินยา สมุนไพร รักษา สิว นั่นเอง
ทั้งนี้ คุณจำเป็นต้องเลือก ยา สมุนไพร รักษา สิว จากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้าน การปรุงยา รักษา สิว จริง ๆ เช่น ศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ ผู้ผลิตยาสมุนไพร ที่มีผู้ซื้อซ้ำ และ บอกต่อกันมากที่สุด ยาวนานกว่า 30 ปี
ยา สมุนไพร รักษา สิว “ตรีผลา” ของศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ แตกต่างจากยารักษา สิว ทั่วไป เพราะเป็นสูตรตำรับเฉพาะ ลิขสิทธิ์หมอออรรถวุฒิ มีส่วนช่วยปรับปรุง ฟื้นฟู ระบบภายในร่างกาย ตับ ลำไส้ เลือดลม ระบบน้ำเหลือง ทำให้สิว กลับมาขึ้นซ้ำได้ยาก ที่สำคัญคือสกัดจากสมุนไพร รักษา สิว 100% ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “ยา” การันตีถึงประสิทธิภาพ ในการรักษา สิวได้จริง อยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์แผนไทย และ เภสัชกร มีมาตรฐานการผลิต GMP มีผลการวิจัยรองรับทั้งไทย และ ต่างประเทศ ได้รับการรับรองจาก อย. มาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่า ปลอดภัยต่อการทานอย่างแน่นอน ที่สำคัญ สามารถทานต่อเนื่องได้ เพราะปราศจากสเตียรอยด์ และ สกัดจากสมุนไพร หลากหลายชนิด เช่น
- สารสกัดสมอทั้ง 5 ได้แก่ สมอไทย สมอพิเภก สมอเทศ สมอดีงู สมอทะเล
- มะขามป้อมสกัด
- ฝางสกัด
- ดอกคำฝอยสกัด
- ชะเอมเทศสกัด
- ขมิ้นอ้อยสกัด
- ขมิ้นชันสกัด ฯลฯ
ซึ่งกลไกการรักษา สิว ด้วยยา สมุนไพร รักษา สิว ตรีผลา หมออรรถวุฒิ จะช่วยเคลียร์ของเสียสะสมในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ตับ ลำไส้ น้ำเหลืองเสีย เมือกมัน ตะกรันในลำไส้ จึงทำให้ประเภทสิวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สิว ผด, สิว อุด ตัน, สิว อักเสบ, สิวหัวหนอง, สิว หัว ช้าง ค่อย ๆ ยุบ หายเองจากข้างใน อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยทำ ให้ผิว และ ระบบภายใน ดีขึ้นด้วย เช่น
- ช่วยให้ผิวใส เด้ง เต่งตึง มีออร่า
- ลดรอยเหี่ยวย่น ลดรอยหลุมสิว ช่วยสร้างคอลลาเจน จากภายใน ให้ผิวเรียบเนียน
- ช่วยให้รอยแผลเป็น รอยดำ รอยแดง จางเร็วขึ้น
- ชะลอแก่ ทำให้ดูอ่อนกว่าวัย
- ช่วยปรับสมดุลขับถ่าย โดยไม่ทำให้ท้องเสีย เป็นยาอายุวัฒนะ
- ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น ระบบเลือดสมบูรณ์ขึ้น บำรุงเลือด ทำให้เลือดสูบฉีดดี ผิวสดใส ดูสุขภาพดี
- ไม่กลับมาเป็นสิวง่าย ซ้ำซาก
ทั้งนี้ แนะนำให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมการใช้ชีวิต และ หลีกเลี่ยงอาหาร ที่กระตุ้นทำให้เกิดสิว ตามที่เราแนะนำไปข้างต้น เพื่อการรักษา สิว ที่เห็นผลเร็ว และ ชัดเจน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
หากมีข้อสงสัยใด ๆ เพิ่มเติม สามารถคอมเม้นท์สอบถามได้ เรามีเภสัชกร และ ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษา ทุกปัญหาสุขภาพ