ในการดูแลรักษาโรคเบาหวาน นอกเหนือจากการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว สมุนไพรหลายชนิดก็มีสรรพคุณที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ สมุนไพรบางชนิดมีคุณสมบัติที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับอ่อนในการผลิตอินซูลิน เพิ่มความไวต่ออินซูลินของเซลล์ในร่างกาย หรือช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลในลำไส้ ซึ่งล้วนเป็นกลไกที่อาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ แต่อย่างไรก็ตาม การใช้สมุนไพรควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ และไม่ควรใช้ทดแทนการรักษาตามแผนการรักษาหลักที่แพทย์กำหนด แต่อาจใช้เป็นการรักษาเสริมเพื่อช่วยควบคุมอาการของโรคเบาหวานได้ดียิ่งขึ้น
8 สมุนไพรแก้เบาหวาน พิชิตน้ำตาลในเลือดสูง
นอกเหนือจากการควบคุมเบาหวานด้วยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด และยังมีอีกหลายวิธีที่คุมเบาหวานได้ วิธีหนึ่งที่สามารถทำได้เป็นประจำคือการใช้สมุนไพรไทยเพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด สมุนไพรเหล่านี้หาได้ง่ายและมีหลายชนิด ดังนี้
1. ขิง กระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ลดน้ำตาลในเลือด ลดคอเลสเตอรอล และช่วยเผาผลาญไขมัน
2. ดอกคำฝอย ลดไขมันในเลือด ความดัน และคอเลสเตอรอล เพิ่มไขมันดี (HDL) และช่วยการไหลเวียนเลือด
3. กระวาน อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยลดความดัน คอเลสเตอรอล และควบคุมน้ำตาลในเลือด
4. กระเจี๊ยบเขียว ควบคุมการดูดซึมน้ำตาล ลดไขมัน และคอเลสเตอรอล มีสารต้านอนุมูลอิสระ
5. รางแดง แก้กระหายน้ำ ลดคอเลสเตอรอล บรรเทาอาการปวดเมื่อยและชา
6. มะระขี้นก มีสารชาแรนทินที่ลดน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการหลั่งอินซูลิน และลดการดูดซึมน้ำตาล
7. อบเชย กระตุ้นการทำงานของอินซูลิน ควบคุมระดับน้ำตาล และช่วยเผาผลาญไขมัน
8. ขมิ้นชัน ช่วยการหลั่งอินซูลิน ลดน้ำตาลและไขมันในเลือด ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
การใช้สมุนไพรเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
น้ำตาลในเลือดสูงเท่าไหร่ ถึงเรียกว่า เป็นเบาหวาน
1. ตรวจน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร 8 ชั่วโมง:
- ต่ำกว่า 70 mg/dL: น้ำตาลในเลือดต่ำ
- ต่ำกว่า 100 mg/dL: ปกติ
- 100-125 mg/dL: เสี่ยงเป็นเบาหวาน
- เกิน 126 mg/dL: เป็นเบาหวาน
2. ตรวจน้ำตาลในเลือดโดยไม่ต้องอดอาหาร:
- 200 mg/dL ขึ้นไป: เป็นเบาหวาน
- เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานแล้วหรือมีอาการชัดเจน
3. ตรวจการตอบสนองของอินซูลิน:
- ดื่มน้ำตาลกลูโคส 75 กรัม
- ตรวจเลือดหลัง 2 ชั่วโมง
- 200 mg/dL ขึ้นไป: เป็นเบาหวาน
4. ตรวจน้ำตาลเฉลี่ยสะสม (HbA1c):
- 6.5% ขึ้นไป: เป็นเบาหวาน
- เหมาะสำหรับติดตามผลการรักษาหรือตรวจย้อนหลัง 3 เดือน
10 พฤติกรรมที่ต้องหยุด ถ้าไม่เป็นเบาหวาน
พฤติกรรมที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นเบาหวาน :
- ทานข้าวขาวเป็นหลัก
- ขาดผักและผลไม้ในอาหาร
- ทานผลไม้รสหวานจัดบ่อย (เช่น ทุเรียน มะม่วงสุก องุ่น ลำไย)
- ชอบอาหารหวาน น้ำหวาน ขนม และช็อกโกแลต
- ทานอาหารไขมันสูง เช่น เนื้อติดมัน อาหารทอด
- บริโภคอาหารแปรรูปประจำ (ไส้กรอก แฮม เบคอน)
- ชอบอาหารเค็มและขนมกรุบกรอบ
- ทานอาหารหมักดองบ่อย (ผักดอง ผลไม้ดอง ปลาร้า)
- ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นประจำ
- ขาดการออกกำลังกาย การออกกำลังกายที่เหมาะต่อเบาหวาน ส่งผลดีอย่างมากต่อผู้ที่เป็นเบาหวาน
การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นเบาหวาน ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมอาการได้
กินสมุนไพรแก้เบาหวานอย่างไร ให้เบาหวานหายดี
การรักษาเบาหวานด้วยสมุนไพรเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ป่วย แม้ว่าสมุนไพรหลายชนิดสามารถนำมาประกอบอาหารได้ง่าย แต่การใช้สมุนไพรเพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพนั้นจำเป็นต้องอาศัยสูตรตำรับที่ผ่านการพัฒนาอย่างเหมาะสม ยาสมุนไพรรักษาเบาหวานที่ผ่านการวิจัยจึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด เนื่องจากประหยัดเวลา ใช้องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในการคัดเลือกและสกัดสมุนไพร มีการควบคุมคุณภาพในกระบวนการผลิต และผ่านการทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพ “ตรีผลา FORTE” จากศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ ซึ่งเป็นยาที่มีลิขสิทธิ์เฉพาะ ผ่านการวิจัยและวิเคราะห์คุณภาพ ได้รับการรับรองจาก อย. และมีประวัติการใช้งานที่ยาวนานกว่า 30 ปี การเลือกใช้ยาสมุนไพรที่ผ่านการรับรอง สามารถช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถใช้ประโยชน์จากสมุนไพรได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
สรุป
สมุนไพรรักษาเบาหวานเป็นทางเลือกการรักษาที่น่าสนใจสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ด้วยคุณสมบัติในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดโดยวิธีธรรมชาติ สมุนไพรหลายชนิดสามารถนำมาประกอบอาหารหรือเครื่องดื่มในชีวิตประจำวันได้ อย่างไรก็ตาม การใช้สมุนไพรอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยนั้น จำเป็นต้องคำนึงถึงการใช้สูตรตำรับที่ผ่านการวิจัยและพัฒนา เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อย. และควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้ โดยเฉพาะหากกำลังใช้ยาแผนปัจจุบันอยู่ แม้ว่าสมุนไพรรักษาเบาหวานจะเป็นส่วนเสริมที่ดีในการดูแลสุขภาพ แต่ควรใช้ร่วมกับการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการติดตามผลการรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อการจัดการโรคเบาหวานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด