โรคต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia) เป็นภาวะที่ต่อมลูกหมาก มีขนาดใหญ่ผิดปกติ ซึ่งปกติแล้วต่อมลูกหมาก มีขนาดประมาณผลวอลนัท ห่อหุ้มท่อปัสสาวะส่วนต้น และ อยู่บริเวณใต้กระเพาะปัสสาวะ คอยทำหน้าที่สร้างสารที่เป็นของเหลว ประมาณ 30% ของน้ำอสุจิ ทำให้เชื้ออสุจิแข็งแรง แต่เมื่อไหร่ที่ต่อมลูกหมากโต ก็จะไปกดทับท่อปัสสาวะ ทำให้ท่อปัสสาวะตีบแคบลง ระบบทางเดินปัสสาวะมีปัญหาได้ โดยต่อมลูกหมากโต เกิดจากอะไร ยังไม่พบหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันอย่างแน่ชัด แต่มีความเชื่อว่า ต่อมลูกหมากโต เกิดจากความสัมพันธ์ของระดับฮอร์โมนในร่างกาย ตามช่วงอายุที่มากขึ้น เนื่องจากผู้ชายที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่อมลูกหมากโตสูง และ พบมากในผู้ชายที่มีอายุประมาณ 60 ปี ทั้งนี้อาการต่อมลูกหมากโต เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ และ มีวิธีรักษาต่อมลูกหมากโต หลายวิธีเช่นกัน ซึ่งจะมีวิธีไหนบ้าง เล่ามีมาเล่าสู่กันฟัง
มาดู! เทคนิคตรวจของแพทย์ ก่อนหาวิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต
อย่างที่บอกไปว่า ผู้ที่เป็นโรคต่อมลูกหมากโต จะมีปัญหาเรื่องระบบปัสสาวะผิดปกติ ซึ่งก่อนจะหาวิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต ให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละท่าน แพทย์จำเป็นต้องตรวจให้ชัดเจนก่อน ว่าต่อมลูกหมากโตมากแค่ไหน โดยวิธีการตรวจ มีหลายวิธี เช่น
1. สอบถามอาการต่อมลูกหมากโต เกี่ยวกับการปัสสาวะ เพื่อประเมินความรุนแรง เช่น
- มีอาการปัสสาวะขัด หรือไม่
- ปัสสาวะตอนกลางคืน บ่อยแค่ไหน
- มีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือไม่
- ปัสสาวะไม่ออก หรือ ต้องเบ่งปัสสาวะ หรือไม่
- ปัสสาวะขัด สะดุดเป็นช่วงๆ หรือไม่
- ปัสสาวะไม่พุ่ง หรือไม่
- ปัสสาวะไม่สุด หรือไม่
- ปวดปัสสาวะรุนแรง ขณะกำลังปัสสาวะ หรือไม่
2. ตรวจปัสสาวะ เพื่อดูว่ามีการอักเสบ ติดเชื้อ หรือ เม็ดเลือดผิดปกติหรือไม่
3. ตรวจวัดอัตราการไหลของปัสสาวะ (Uroflowmetry) และ ตรวจปัสสาวะที่เหลือค้าง หลังจากปัสสาวะหมดแล้ว
4. ตรวจต่อมลูกหมากโต ผ่านทางทวารหนัก (Digital Rectal Examination) โดยแพทย์จะสวมถุงมือ และ ใช้นิ้วสอดเข้าไป กดลงบนต่อมลูกหมาก เพื่อประเมินขนาด และ ความผิดปกติของต่อมลูกหมากนั่นเอง
5. ตรวจอัลตราซาวด์ เพื่อดูขนาดต่อมลูกหมาก
6. ตรวจเลือดเพื่อหาค่า PSA (Prostatic Specific Antigen) ซึ่งเป็นค่าโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่ผลิตขึ้นจากเซลล์ของต่อมลูกหมาก โดยค่าปกติของ PSA จะอยู่ในช่วง 4 – 10 นาโนกรัม/มิลลิลิตร ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ หากพบว่า PSA สูงเกิน 10 นาโนกรัม/มิลลิลิตร ก็ถือว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้ด้วย เป็นต้น
ปรับพฤติกรรม วิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต ที่สำคัญ ต้องทำทุกคน
รู้หรือไม่? ว่าผู้ที่มีอาการต่อมลูกหมากโต ไม่มากนัก แพทย์จะแนะนำวิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต ด้วยการให้ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต อาการต่อมลูกหมากโต ก็จะดีขึ้นได้เอง ส่วนผู้ที่กำลังรักษาต่อมลูกหมากโตอยู่ ไปพร้อมๆ กับการทานยา หรือวิธีอื่นๆ ก็จำเป็นจะต้องปฏิบัติตามนี้เช่นกัน
- หากคุณมีอาการปัสสาวะขัด ไม่พุ่ง หรือ ปัสสาวะไม่ออก แต่รู้สึกปวดปัสสาวะ ให้รีบเข้าห้องน้ำทันที ห้ามกลั้นปัสสาวะไว้นานๆ เพราะการกลั้นปัสสาวะ ส่งผลให้กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะตีบแคบลง เกิดความเสียหายมากยิ่งขึ้น อาการต่อมลูกหมากโต ก็หนักมากกว่าเดิม
- หากคุณเป็นต่อมลูกหมากโต แต่ปัสสาวะบ่อย เป็นคนกลั้นปัสสาวะไม่ได้ แพทย์จะแนะนำให้ฝึกกลั้นปัสสาวะแทน แล้วปัสสาวะเป็นเวลา โดยให้เข้าห้องน้ำ ทุก 4 – 6 ชั่วโมง เพื่อเป็นการจำกัดการเข้าห้องน้ำไปในตัว
- ก่อนนอนไม่ควรดื่มน้ำมาก เพราะจะทำให้ต้องลุกมาปัสสาวะบ่อย
- ทานถั่วเหลือง หรือ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น น้ำเต้าหู้ เพราะในถั่วเหลืองมีสารฟลาโวนอยด์ และ สารไอโซฟลาโวน ที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย และ ช่วยทำให้ต่อมลูกหมากแข็งแรงขึ้นด้วย
- ทานผักตระกูลกะหล่ำ เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดขาว บล็อกโคลี เพราะมีสารซัลโฟราเฟน (Sunforaphane) ที่ช่วยลดการอักเสบของต่อมลูกหมาก กำจัดสารก่อมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ทานมะเขือเทศ เพราะมีสารไลโคปีน ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และ มะเร็งต่อมลูกหมาก
- ทานฟักทอง เมล็ดฟักทอง เพราะมีกรดอะลานีน ไกลซีน กลูตามิก สังกะสี และ แมกนีเซียม ที่ช่วยบำรุงต่อมลูกหมากให้สมบูรณ์ แข็งแรง
- งดทานอาหารประเภทปิ้ง ทอด ไขมันสูง
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที ประมาณ 4 วัน/สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย ด้วยการปั่นจักรยาน เพราะกระทบต่อต่อมลูกหมาก ทำให้อาการหนักมากกว่าเดิม
- ฝึกขมิบอุ้งเชิงกรานบ่อยๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อทางเดินปัสสาวะ ทำงานได้ดีขึ้น
- ทานยาสมุนไพรแก้โรคต่อมลูกหมากโต เพื่อบำรุง และ ฟื้นฟูต่อมลูกหมาก
วิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต ด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน
วิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต ที่นิยมกันเป็นส่วนใหญ่ คือ การรักษาต่อมลูกหมากโต ด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เกิดปัญหาทางเดินปัสสาวะ ก็จะพบแพทย์เป็นอันดับแรกอยู่แล้ว ซึ่งวิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต โดยแพทย์แผนปัจจุบัน มีหลากหลายวิธี โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาวิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต ให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย เช่น
1. วิธีรักษาต่อมลูกหมากโต ด้วยการทานยา ซึ่งมีด้วยกันหลายตัว เช่น
- ยาในกลุ่มอัลฟา-บล็อกเกอร์ (Alpha adrenergic blockers) เช่น ยาพราโซซิน (Prazosin) ยาด๊อกซาโซซิน (Doxazosin) ที่ช่วยคลายการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อต่อมลูกหมาก ซึ่งออกฤทธิ์เร็ว ทำให้รู้สึกว่าปัสสาวะได้คล่อง แต่หากหยุดทาน ก็จะกลับมาเป็นซ้ำได้
- ยายับยั้งการสร้างฮอร์โมน (Dihydrotestosterone) ที่ช่วยชะลอการโตของต่อมลูกหมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต่อมลูกหมากโตมาก แต่ถ้าหยุดทานยา ต่อมลูกหมากก็จะยังคงโตต่อไป
ซึ่งการทานยารักษาต่อมลูกหมากโต จำเป็นต้องทานไปเรื่อยๆ และอาจมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ เช่น หน้ามืด เวียนศีรษะ สมรรถภาพทางเพศลดลง การหลั่งน้ำอสุจิผิดปกติได้ เป็นต้น
2. วิธีรักษาต่อมลูกหมากโต ด้วยการใช้ความร้อน ซึ่งเป็นการใช้ความร้อนกับเนื้อเยื่อของต่อมลูกหมาก ในการลดขนาดต่อมลูกหมากโต ช่วยลดการปวดเกร็ง ลดการอักเสบ ในลักษณะผ่อนคลายชั่วคราว ไม่ใช่การรักษา ไม่ได้ช่วยให้ลดลงได้ เช่น ไมโครเวฟ คลื่นวิทยุ การเลเซอร์ ซึ่งเป็นวิธีรักษาต่อมลูกหมากโต สำหรับผู้ที่ไม่สามารถผ่าตัดได้
3. วิธีรักษาต่อมลูกหมากโต ด้วยการผ่าตัด เช่น
- ผ่าตัดผ่านกล้องส่องกระเพาะปัสสาวะ (Transurethral resection of the prostate: TURP) เพื่อตัดเนื้อส่วนเกิน จากต่อมลูกหมากออกมา โดยสอดท่อที่มีกล้องขนาดเล็ก ผ่านเข้าทางท่อปัสสาวะ จะมีการวางยาส่วนล่างผู้ป่วย ทำให้ตอนผ่าตัดไม่รู้สึกเจ็บ และหลังจากผ่าตัดเสร็จ จำเป็นต้องใส่สายสวนปัสสาวะ ประมาณ 4 วัน
- ผ่าตัดต่อมลูกหมากโต ด้วยเลเซอร์ PVP (Photoselective Vaporization of the Prostate: LASER PVP) เป็นการสอดท่อที่มีกล้องขนาดเล็ก ผ่านท่อปัสสาวะ แล้วใช้แสงเลเซอร์ละลายต่อมลูกหมากที่โต มีการบล็อกหลังก่อนการผ่าตัด โดยวิธีรักษาต่อมลูกหมากโตวิธีนี้ เหมาะกับผู้สูงอายุ และ ผู้มีโรคประจำตัว เนื่องจากเสียเลือดน้อย พักฟื้นไม่นาน หลังการผ่าตัดจะใส่สายสวนปัสสาวะ 1 คืน
ข้อควรรู้ : วิธีรักษาต่อมลูกหมากโต ด้วยการผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถรักษาต่อมลูกหมากโต ให้หายได้ด้วยการทานยา และการผ่าตัด ต้องใช้เวลาพักฟื้น นานเป็นเดือน ต้องระวังแผลติดเชื้อ และมีสิทธิ์ที่ต่อมลูกหมาก จะโตกลับขึ้นมาได้เช่นกัน
วิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต ด้วยพืช ผัก สมุนไพรแก้ต่อมลูกหมากโต
วิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต ด้วยสมุนไพรแก้ต่อมลูกหมากโต เป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาที่ได้รับความนิยม ไม่แพ้การทานยาแพทย์แผนปัจจุบัน เพราะอย่างที่บอกไปว่า ยาแผนปัจจุบัน จำเป็นต้องทานติดต่อกันนานหลายปี และ หลังหยุดทานยาไปแล้ว มีสิทธิ์ที่จะกลับมาเป็นซ้ำอีกได้ ซึ่งมีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อย ที่เกิดความกังวลต่อการเกิดสารเคมีตกค้างในร่างกาย หากทานยาเคมีติดต่อนาน จึงเลือกวิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต ด้วยการทานสมุนไพรแก้ต่อมลูกหมากโตแทน ซึ่งก็มีให้เลือกทั้ง สมุนไพรแก้ต่อมลูกหมากโตของไทย และ สมุนไพรแก้ต่อมลูกหมากโตของจีน
- พืช ผัก สมุนไพรแก้ต่อมลูกหมากโต ของไทย เช่น มะเขือเทศ ขมิ้นชัน กระเจี๊ยบ เถาวัลย์เปรียง ฟักข้าว เป็นต้น
- พืช ผัก สมุนไพรแก้ต่อมลูกหมากโต ของจีน เช่น โป๊ยกั๊ก อิมเอียกขัก อึ้งคี้ ผู่อึ้ง เชียเจ่ยเช่า ชวงหงู่ฉีก เป็นต้น
แม้ว่าข้อดีของวิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต ด้วยพืช ผัก สมุนไพรแก้ต่อมลูกหมากโต คือ การไม่ต้องกังวล ต่อการเกิดสารเคมีตกค้างในร่างกาย เนื่องจากเป็นวิธีธรรมชาติ แต่ยังต้องใช้เวลานานพอสมควร กว่าจะเห็นผลในการรักษา และ ต้องรู้สัดส่วนในการทาน ต้องรู้ว่าทานส่วนไหนถึงจะดีต่อต่อมลูกหมาก เพื่อให้เห็นผลในแง่รักษานั่นเอง
วิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต แบบไร้สารตกค้าง ด้วยยาสมุนไพรแก้ต่อมลูกหมากโต
หากคุณผู้ชาย ที่มีอาการต่อมลูกหมากโต และต้องการวิธีรักษาต่อมลูกหมากโต แบบไร้สารเคมีตกค้าง ที่มาพร้อมกับความง่าย สะดวก และเห็นผลในการรักษา เราแนะนำให้ใช้ “ยาสมุนไพรแก้ต่อมลูกหมากโต” ที่สกัดจากสมุนไพรไทย ธรรมชาติ 100% เช่น “อาโปกษัย” ยาสมุนไพรแก้ต่อมลูกหมากโต สูตรตำรับเฉพาะ จากศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ผ่านมาตรฐานการผลิต GMP ภายใต้การควบคุมของแพทย์ไทย และ เภสัชกร ละเอียดอ่อนกว่ายาเคมี และ เห็นผลลัพธ์ชัดเจนกว่าอาหารเสริม โดยอาโปกษัย มีส่วนประกอบจาก สารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ ที่สด ใหม่ ปราศจากสารเคมี ไม่ว่าจะเป็น
- เมล็ดชั้นในกระเจี๊ยบสกัด
- โด่ไม่รู้ล้มสกัด
- ขลู่สกัด
- หัวข้าวเย็นเหนือสกัด
- เถารางแดงสกัด
- เปลือกกุ่มบกสกัด
- เปลือกทองหลาง
- เถาวัลย์เปรียงขาวสกัด และ เถาวัลย์เปรียงแดงสกัด ฯลฯ
ซึ่งบอกเลยว่า สารสกัดจากเถาวัลย์เปรียงพันธุ์สีแดง นั้นหายากมาก พบมากที่ จ.นครราชสีมา และ เป็นแหล่งปลูกที่มีสารสำคัญมากที่สุด ส่วนใหญ่เราจะเห็นยาสมุนไพรแก้ต่อมลูกหมากโต ที่ใช้สารสกัดเถาวัลย์เปรียงพันธุ์สีขาวอย่างเดียว เพราะหาได้ง่ายกว่า แต่อาโปกษัย หมออรรถวุฒิ มีส่วนประกอบจากสารสกัดทั้ง 2 สายพันธุ์ คือ แดง และ ขาว จึงทำให้ออกฤทธิ์ได้ชัดเจน และ ครบถ้วนยิ่งขึ้น
ซึ่งอาโปกษัย มีส่วนช่วยรักษา ฟื้นฟู บำรุงภายในของคุณผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็น
- ลดการบวม โต อักเสบ ของต่อมลูกหมาก
- ช่วยฟื้นฟูระบบทางเดินปัสสาวะ
- แก้การหดตัว ตีบ ตัน ของท่อปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะคล่องมากขึ้น
- ช่วยแก้อาการปัสสาวะบ่อย
- แก้ปัสสาวะแสบขัด
- แก้อาการปัสสาวะบ่อย กะปริดกะปรอย
- แก้โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ
- ช่วยขับนิ่วในไต นิ่วทางเดินปัสสาวะ
- ช่วยลดการบวม อักเสบ ฆ่าเชื้อทางเดินปัสสาวะ
- แก้เส้นเอ็นตึง แก้กล่อนลงฝัก และ กร่อนทุกชนิด
- ลดการตื่นตัวของเส้นประสาทที่ไวเกิน แก้กระเพาะปัสสาวะไวเกิน
- ปรับสมดุลสมรรถภาพ
ซึ่งฤทธิ์ของสมุนไพรแก้ต่อมลูกหมากโต ในอาโปกษัย จะค่อยๆ เข้าไปรักษา ฟื้นฟู แบบค่อยเป็นค่อยไป ทีละน้อย จนต่อมลูกหมาก มีขนาดเป็นปกติ ระบบทางเดินปัสสาวะดีขึ้น คล่องขึ้น ซึ่งเป็นวิธีรักษาต่อมลูกหมากโตที่ดี ในระยะยาว เพราะระบบภายในถูกฟื้นฟูทั้งหมด และเป็นวิธีรักษาต่อมลูกหมากโต ที่ไม่ยากอีกด้วย ทั้งนี้ถึงแม้ไม่ได้มีอาการต่อมลูกหมากโต หรือ อยู่ในระหว่างไม่ทราบผลแน่ชัด รู้สึกระบบทางเดินปัสสาวะผิดปกติ ก็สามารถทานอาโปกษัยได้เช่นกัน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
หากมีข้อสงสัยใดๆ เพิ่มเติม สามารถคอมเม้นท์สอบถามได้ เรามีเภสัชกร และ ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพ