ต้องรู้! เป็นต่อมลูกหมากโต ห้ามกินอะไร

อาการต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia) เป็นอาการต่อมลูกหมากใหญ่ผิดปกติ แล้วไปกดทับท่อปัสสาวะ ทำให้ท่อปัสสาวะตีบแคบลง ระบบทางเดินปัสสาวะมีปัญหา เวลาปัสสาวะจึงรู้สึกแสบ ขัด ปัสสาวะได้ไม่สุด ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ฯลฯ โดยสาเหตุของอาการต่อมลูกหมากโต ยังไม่พบหลักฐานทางการแพทย์ ยืนยันอย่างแน่ชัดว่า เกิดจากอะไร แต่มีความเชื่อว่า อาการต่อมลูกหมากโต มีความสัมพันธ์กับอายุ และ ระดับฮอร์โมนในร่างกายของเพศชาย โดยอายุที่มากขึ้น ยิ่งมีความเสี่ยง ต่อการเกิดต่อมลูกหมากโตมากยิ่งขึ้น โดยผู้ชายที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่อมลูกหมากโตสูง และ พบมากในผู้ชายที่มีอายุประมาณ 60 ปี อีกด้วย ทั้งนี้เมื่อมีอาการต่อมลูกหมากโตแล้ว นอกจากการรักษาต่อมลูกหมากโต ด้วยการทานยารักษาต่อมลูกหมากโต เราจำเป็นต้องทราบด้วยว่า เป็นต่อมลูกหมากโต ห้ามกินอะไร เพื่อไม่ให้กระตุ้นต่อมลูกหมาก ให้โตมากยิ่งขึ้น

ต่อมลูกหมากโต ห้ามกินอะไร

แม้ว่าอาการต่อมลูกหมากโต จะไม่ได้อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต แต่หากไม่ทำการรักษาโรคต่อมลูกหมากโต อย่างรวดเร็ว ก็จะมีความเสี่ยง ต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ภาวะไตวาย ฯลฯ ดังนั้นนอกจากการรักษาโรคต่อมลูกหมากโต ด้วยการทานยารักษาต่อมลูกหมากโตแล้ว เราจำเป็นต้องปรับพฤติกรรมการทานอาหาร ควบคู่ไปด้วย ต้องรู้ว่า เป็นต่อมลูกหมากโต ห้ามกินอะไร   

• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ต่อมลูกหมากโต ห้ามกินอะไร? อย่างแรกที่สำคัญมาก คือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีผลต่อการปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะบ่อย และ ปัสสาวะออกมาเป็นจำนวนมาก

• เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เพราะทำให้กระเพาะปัสสาวะระคายเคืองได้

• อาหารที่มีไขมันสูง

ต่อมลูกหมากโต ห้ามกินอะไร? หนึ่งในนั้นคือ ไขมัน เพราะไขมัน จะถูกย่อยเป็นกรดไขมัน ซึ่งจะเข้าไปกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ และ เปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากได้ด้วย โดยอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ชีส เบอเกอร์ เฟรนช์ฟราย ไก่ทอด เบเกอรี่ ของมัน ของทอด เป็นต้น

• อาหารแปรรูป

อาหารแปรรูป มักเป็นอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โจ๊กสำเร็จรูป ผักดอง ผลไม้ดอง ปลาร้า เต้าเจี้ยว ไส้กรอก แฮม เบคอน หมูยอ เป็นต้น ซึ่งอาหารแปรรูป มีส่วนทำให้ระบบทางเดินปัสสาวะ ทำงานหนัก ปัสสาวะบ่อย ส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะต่อมลูกหมากโตได้ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการปรุงอาหารด้วยเกลือ ซอสปรุงรสต่าง ๆ ด้วย

• เนื้อแดง

หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่า เนื้อแดง มีผลต่อการเกิดอาการต่อมลูกหมากโตได้ แต่ต้องบอกเลยว่า มีผล เพราะในเนื้อแดง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแกะ มีสารไนเตรต และ ไนไตรต์ ซึ่งเป็นสารเร่งเนื้อแดง รวมถึงมีไขมันแทรกอยู่ หากกินในปริมาณมาก กินเป็นประจำ จะเพิ่มความเสี่ยงการเกิด อาการต่อมลูกหมากโต และ มะเร็งต่อมลูกหมากได้ง่ายนั่นเอง

• ยาลดน้ำมูก หรือ ยาแก้แพ้

ต่อมลูกหมากโต ห้ามกินอะไร? หนึ่งในนั้นคือ ยาลดน้ำมูก และ ยาแก้แพ้ เพราะยาทั้งสองชนิดนี้ มีผลต่อการควบคุมการไหลของปัสสาวะ เพราะทำให้ท่อปัสสาวะหดตัวลงได้ หากจำเป็นต้องทานยาลดน้ำมูก หรือ ยาแก้แพ้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการทาน

อาหารต่อมลูกหมากโต ที่ควรกิน มีอะไรบ้าง

นอกจากรู้แล้วว่า เป็นต่อมลูกหมากโต ห้ามกินอะไร อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องรู้ก็คือ อาหารต่อมลูกหมากโต ที่กินแล้วจะช่วยทำให้อาการต่อมลูกหมากโตดีขึ้น ช่วยบำรุง ฟื้นฟู และ ป้องกันการเกิดโรคได้ เช่น

• ขมิ้นชัน

ในขมิ้นชัน มีสารที่ช่วยยับยั้งกระบวนการอักเสบ ต้านมะเร็ง ของต่อมลูกหมาก รวมไปถึงมีฤทธิ์ต้านฤทธิ์ฮอร์โมนเพศชาย แอนโดรเจน (Androgen) อีกด้วย

• ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

เช่น สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ เป็นต้น เพราะในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบ และลดโอกาสเกิดอาการต่อมลูกหมากโตได้

• ทับทิม

ทับทิม เป็นอีกหนึ่งผลไม้ ที่ช่วยเรื่องอาการต่อมลูกหมากโตได้ เพราะภายในทับทิม อุดมไปด้วย เอลลาจิแทนนิน (Ellagitannin) และ สารต้านอนุมูลอิสระและ ลดความเสี่ยง ชะลอ ป้องกัน และบำรุงต่อมลูกหมาก อีกทั้งช่วยลดโอกาส กี่เกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้อีกด้วย

• มะเขือเทศ

ในมะเขือเทศ มีไลโคปีนสูงมาก โดยเราแนะนำให้นำมะเขือเทศ ไปปรุงสุก เป็นอาหารต่อมลูกหมากโต เพราะร่างกายจะได้รับไลโคปีนจากมะเขือเทศที่ปรุงสุก มากกว่า การทานมะเขือเทศสด ๆ โดยไลโคปีน มีส่วนช่วยลดค่า PSA (Prostate Specific Antigen) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่ผลิตขึ้นจากเซลล์ของต่อมลูกหมาก เป็นตัววัดสุขภาพของต่อมลูกหมาก หากค่า PSA มาก ก็ยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก ดังนั้นการทานมะเขือเทศปรุงสุก จะช่วยทำให้ค่า PSA เป็นปกติได้  ลดความเสี่ยงต่อการเกิด อาการต่อมลูกหมาก และ มะเร็งต่อมลูกหมาก นั่นเอง

• เมล็ดฟักทอง

อาหารต่อมลูกหมากโต ที่หาทานง่ายอีกอย่าง คือ เมล็ดฟักทอง ซึ่งในเมล็ดฟักทองนั้น อุดมไปด้วยเบต้า-ซิโตสเตอรอล (Beta-Sitosterol) ที่ช่วยในการรักษาโรคต่อมลูกหมากโต มีแร่ธาตุสังกะสี และ กรดไขมันจำเป็น อาทิ โอเมก้า 3, โอเมก้า 6 และโอเมก้า 9 ที่ร่างกาย ไม่สามารถสร้างเองได้ โดยเราแนะนำให้ใช้น้ำมันเมล็ดฟักทอง มาประกอบอาหาร เพราะน้ำมันเมล็ดฟักทอง จะมีสารอาหารดังกล่าวไปในปริมาณสูง อีกทั้งยังมี กรดไลโนเลอิก (Linoleic Acid) ที่ช่วยป้องกัน อาการต่อมลูกหมากโต ลดการอักเสบของต่อมลูกหมากโต บวม อีกด้วย

• น้ำมันรำข้าว

ในน้ำมันรำข้าว มีสารแกมมา โอริซานอล (Gamma Oryzanol) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยลดอาการต่อมลูกหมากโต โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก และโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยลดโคเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C) ให้กับร่างกาย ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน ฯลฯ

• ถั่วเหลือง

อาหารต่อมลูกหมากโต อีกหนึ่งอย่างที่หาทานได้ง่ายมาก นั่นก็คือ ถั่วเหลือง ซึ่งในถั่วมีสังกะสี (Zinc) สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) สารไอโซฟลาโวน (Isoflavone) ฯลฯ ที่ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนเพศชาย ให้ต่อมลูกหมากแข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการต่อมลูกหมากโตได้  

• ผักตระกูลกะหล่ำ

เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บล็อกโคลี โดยผักตระกูลกระหล่ำ จะมีสารที่ชื่อว่า ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ซึ่งมีส่วนช่วยลดอาการต่อมลูกหมากโต อักเสบ บวม ช่วยกำจัดสารก่อมะเร็ง เพิ่มการทำงานของเอนไซม์ ขับล้างสารพิษออกจากร่างกายได้ด้วย

• ปลาแซลมอน

เช่น เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า เห็ดหลินจือ เห็ดไมตาเกะ เป็นต้น โดยภายในเห็ด จะมีสารชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า สารเลนติแนน (Lentinan) และ สารเออร์โกไธโอนีน (Ergothioneine) ที่ช่วยกระตุ้นสร้างภูมิคุ้มกัน ยับยั้งการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดี 

• เห็ด

เช่น เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า เห็ดหลินจือ เห็ดไมตาเกะ เป็นต้น โดยภายในเห็ด จะมีสารชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า สารเลนติแนน (Lentinan) และ สารเออร์โกไธโอนีน (Ergothioneine) ที่ช่วยกระตุ้นสร้างภูมิคุ้มกัน ยับยั้งการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดี

ปรับพฤติกรรม ตัวช่วยการรักษาโรคต่อมลูกหมากโต ที่ต้องทำทุกคน

นอกจากคุณผู้ชายทั้งหลายจะรู้ว่า เป็นต่อมลูกหมากโต ห้ามกินอะไร รวมไปถึงอาหารต่อมลูกหมากโต ที่ควรหามากินมีอะไรบ้าง เรายังต้องรู้วิธีการรักษาโรคต่อมลูกหมาก นอกเหนือจากการกินยารักษาต่อมลูกหมาก นั่นก็คือ การปรับพฤติกรรมชีวิตของเรานั่นเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำทุกวัน โดยผู้ที่มีอาการต่อมลูกหมากโต ควรปฏิบัติตัวดังนี้

• หากรู้สึกปวดปัสสาวะ ให้เข้าห้องน้ำ อย่ากลั้นกลั้นปัสสาวะนาน
• ดื่มน้ำสะอาด อย่างน้อย 8 แก้ว/วัน
• มีการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์  
• ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อย 30 นาที ประมาณ 4 – 5 วัน/สัปดาห์
• หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย ด้วยการปั่นจักรยาน ขี่ม้า เพราะส่งผลกระทบต่อต่อมลูกหมาก ทำให้อาการต่อมลูกหมากโต อักเสบ บวม มากกว่าเดิม
• ฝึกขมิบอุ้งเชิงกรานบ่อย ๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อทางเดินปัสสาวะ ทำงานได้ดีขึ้น
• กินยา สมุนไพร รักษา โรค ต่อ ม ลูกหมาก โต เพื่อบำรุง และ ฟื้นฟูอาการต่อมลูกหมากโต และระบบทางเดินปัสสาวะ

ไม่อยากเป็นซ้ำ ลองยา สมุนไพร รักษา โรค ต่อ ม ลูกหมาก โต

รู้หรือไม่ว่า การกินยารักษาต่อมลูกหมากโต ที่เป็นยาแผนปัจจุบัน มีโอกาสกลับมาเป็นต่อมลูกหมากโต ซ้ำได้ด้วย เพราะการกินยารักษาต่อมลูกหมากโต ช่วยให้อาการดีขึ้นได้ไว รู้สึกปัสสาวะได้คล่องขึ้น แต่หากหยุดทาน ก็มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้  เพราะต่อมลูกหมาก ไม่ได้ถูกฟื้นฟูให้แข็งแรงอย่างลงลึก อีกทั้งอาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ด้วย เช่น หน้ามืด วิงเวียน สมรรถภาพทางเพศลดลง เป็นต้น

แต่หากคุณผู้ชายท่านใด ที่ต้องการรักษาโรคต่อมลูกหมากโต แบบลงลึก ต้องการให้ต่อมลูกหมาก ได้รับการฟื้นฟู ให้กลับมาดีได้อีกครั้ง ยา สมุนไพร รักษา โรค ต่อ ม ลูกหมาก โต เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์การรักษา ได้ดีทีเดียว เพราะสารสกัดจากสมุนไพรต่อมลูกหมากโต จะช่วยค่อยๆ ฟื้นฟูอาการต่อมลูกหมากโต ให้ดีขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ฝืนธรรมชาติ ทั้งนี้เราจำเป็นต้องเลือก ยา สมุนไพร รักษา โรค ต่อ ม ลูกหมาก โต ที่มาจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ เช่น ยา สมุนไพร รักษา โรค ต่อ ม ลูกหมาก โต “อาโปกษัย” จากศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาสมุนไพร ที่ได้รับความไว้วางใจ มายาวนานกว่า 30 ปี

สำหรับยา สมุนไพร รักษา โรค ต่อ ม ลูกหมาก โต “อาโปกษัย” นั้น ได้รับการขึ้นทะเบียนกับ อย. แล้วเรียบร้อย มีมาตรฐานการผลิต GMP อยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ไทย และ เภสัชกร มีประสิทธิภาพ ในการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตได้ละเอียดอ่อนกว่ายาเคมี เห็นผลลัพธ์ชัดเจนกว่าอาหารเสริม ซึ่งมีส่วนประกอบจาก สารสกัดจากสมุนไพรต่อมลูกหมากโต 100% สด ใหม่ ปราศจากสารเคมี เช่น  

• เมล็ดชั้นในกระเจี๊ยบสกัด
• โด่ไม่รู้ล้มสกัด
• ขลู่สกัด
• หัวข้าวเย็นเหนือสกัด
• เถารางแดงสกัด
• เปลือกกุ่มบกสกัด
• เปลือกทองหลาง
• เถาวัลย์เปรียงขาวสกัด และ เถาวัลย์เปรียงแดงสกัด ฯลฯ

ซึ่งอาโปกษัย มีส่วนช่วยทำให้ต่อมลูกหมากขึ้นได้ ดังนี้

1. ช่วยลดขนาดต่อมลูกหมากบวม โต
2. ช่วยลดอาการต่อมลูกหมากอักเสบ จนเป็นปกติ
3. ลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ
4. แก้โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ
5. แก้การหดตัว ตีบ ตัน ของท่อปัสสาวะ ระบบทางเดินปัสสาวะ ถูกฟื้นฟู ทำให้ปัสสาวะได้คล่องขึ้น
6. แก้อาการปัสสาวะบ่อย
7. แก้ปัสสาวะแสบขัด
8. แก้อาการปัสสาวะกะปริดกะปรอย
9. ช่วยขับนิ่วในไต นิ่วทางเดินปัสสาวะ
10. แก้เส้นเอ็นตึง แก้กล่อนลงฝัก และ กร่อนทุกชนิด
11. ลดการตื่นตัวของเส้นประสาทที่ไวเกิน แก้กระเพาะปัสสาวะไวเกิน
12. ปรับสมดุลสมรรถภาพทางเพศ
13. ไม่มีอาการก็สามารถกิน เพื่อป้องกันอาการต่อมลูกหมากโตได้
14. ไม่กลับมาเป็นซ้ำง่าย อาการดีขึ้นระยะยาว เพราะต่อมลูกหมากถูกฟื้นฟูดีขึ้นทั้งหมด

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

หากมีข้อสงสัยใดๆ เพิ่มเติม สามารถคอมเม้นท์สอบถามได้ เรามีเภสัชกร และ ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพ