สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน คงทราบกันดีอยู่แล้วว่า เบาหวานเกิดจากปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เพราะขาดฮอร์โมนอินซูลิน หรือ เกิดจากระบบดูดซึมน้ำตาลในเลือดผิดปกติ จนทำให้น้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งวิธีรักษาเบาหวาน มีอยู่หลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น คุมเบาหวาน คุมน้ำตาล ทานยาตามแพทย์สั่ง ฉีดอินซูลิน หรือ หากใครมีอาการเบาหวานอย่างหนัก เกิดโรคแทรกซ้อน เช่น เบาหวานขึ้นตา เบาหวานลงเท้า ก็อาจต้องรักษาด้วยการเลเซอร์ หรือ ผ่าตัดเลยก็เป็นได้ นอกจากนี้ วิธีรักษาเบาหวาน อีกรูปแบบหนึ่ง ที่ถูกใช้มาอย่างช้านาน และ ทำให้เบาหวานหายได้เหมือนกัน นั่นก็คือ การใช้สมุนไพรแก้เบาหวานนั่นเอง ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึง สมุนไพรแก้เบาหวาน แต่ละชนิด ว่ามีอะไรบ้าง ที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือดสูง ให้กับผู้ป่วยเบาหวานได้
8 สมุนไพรแก้เบาหวาน พิชิตน้ำตาลในเลือดสูง
นอกจากคุมเบาหวาน ด้วยการออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดแล้ว หนึ่งในวิธีรักษาเบาหวาน ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ที่สามารถทำได้เป็นประจำทุกวัน นั่นก็คือ การกินสมุนไพรแก้เบาหวาน หรือ สมุนไพรลดน้ำตาลในเลือดนั่นเอง ซึ่งสมุนไพรไทยที่มีประสิทธิภาพ ในการรักษาอาการเบาหวาน สามารถหาทานง่าย และ มีอยู่หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น
1. ขิง
ขิง เป็นสมุนไพรลดน้ำตาลในเลือด รสชาติเผ็ด ร้อน ที่ช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ลด และ ปรับสมดุลน้ำตาลในเลือด สามารถลดคอเลสเตอรอล ระดับไขมันในเลือด ฯลฯ อีกทั้งช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ช่วยลดน้ำหนัก และ ไขมันสะสมได้ นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อน จากอาการเบาหวาน เช่น เบาหวานขึ้นตา เบาหวานลงเท้า เบาหวานลงไต เป็นต้น
2. ดอกคำฝอย
ดอกคำฝอย อีกหนึ่งสมุนไพรแก้เบาหวาน ที่มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ความดันโลหิต คอเลสเตอรอล มีส่วนช่วยเพิ่มระดับไขมันดี (HDL) ในร่างกาย เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต สลายลิ่มเลือด สำหรับคนที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ช่วยขับน้ำเหลืองเสีย บำรุงน้ำเหลืองให้เป็นปกติ
3. กระวาน
กระวาน สมุนไพรลดน้ำตาลในเลือด ที่มีรสชาติเผ็ดร้อน มักถูกใช้ในการประกอบอาหาร ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามิน และ แร่ธาตุหลายชนิด เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินซี ฯลฯ โดยกระวาน มีส่วนช่วยในการลดความดันโลหิต คอเลสเตอรอล คุมเบาหวาน ทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น อีกทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
4. กระเจี๊ยบเขียว
รู้หรือไม่? ว่ากระเจี๊ยบเขียว ที่หลายคนมักจะนำไปต้มทาน สามารถช่วยคุมเบาหวาน และ น้ำตาลในเลือดสูงได้ นอกจากนี้ยังช่วยรักษาระดับการดูดซึมน้ำตาล จากลำไส้ใหญ่ ลดไขมัน คอเลสเตอรอล ช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร ลดความเสี่ยงของโรคแผลในกระเพาะอาหาร ป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหาร และ มะเร็งลำไส้ใหญ่ อีกทั้งอุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ มีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันยาเคมีทำลายไต เบาหวานลงไต และป้องกันหลอดเลือดตีบตัน จากไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้
5. รางแดง
รางแดง สมุนไพรแก้เบาหวาน ที่ได้ชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ เพราะมีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย หลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น แก้กระหายน้ำ เพราะคนที่เป็นเบาหวาน จะคอแห้ง กระหายน้ำบ่อย ช่วยลดคอเลสเตอรอล แก้ปวดเมื่อย แก้กษัย อาการชาตามมือ – เท้า ช่วยฟื้นฟูหลอดเลือด เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ เป็นต้น
6. มะระขี้นก
ในมะระขี้นก มีสารชาแรนทิน (Charantin) ที่สำคัญต่อผู้ป่วยเบาหวาน เพราะสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ อีกทั้งช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อน ลดการดูดซึมน้ำตาล เข้าสู่เซลล์ผนังลำไส้ ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย ยังยับยั้งการหลั่งกลูโคสจากลำไส้เล็ก ปรับความดันให้สมดุล ลดอาการปัสสาวะบ่อย ส่วนใครที่มีอาการเบาหวานขึ้นตา หากทานมะระขี้นก ก็จะเข้าไปช่วยชะลอการเกิดโรคต้อหิน ต้อกระจกได้ด้วย
7. อบเชย
อบเชย สมุนไพรที่มักถูกนำมาใช้ ในการปรุงอาหารทั้งคาว และ หวาน มีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของอินซูลิน ลดน้ำตาลในเลือด ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เผาผลาญไขมันในร่างกาย ช่วยขับลม แก้อาการจุก เสียด แน่นท้อง รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ได้อีกด้วย
8. ขมิ้นชัน
สารสกัดจากขมิ้นชัน มีส่วนช่วยทำให้อินซูลินหลั่นได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน อีกทั้งช่วยลดระดับไขมันในร่างกาย ลดระดับน้ำตาลในเลือด และ น้ำตาลเฉลี่ยสะสม ป้องกันภาวะการแข็งตัวของหลอดเลือด การเกิดโรคหัวใจ และ หลอดเลือดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรอื่นๆ อีกหลายชนิดมาก ที่มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด และ มีคุณสมบัติ อีกหลายๆ ด้าน ที่ช่วยส่งเสริม ให้เบาหวานดีขึ้น โดยเฉพาะสมุนไพรของไทยเรา จะมีฤทธิ์ที่ชัดเจน ประโยชน์หลากหลาย กว่าสมุนไพรต่างประเทศ
น้ำตาลในเลือดสูงเท่าไหร่ ถึงเรียกว่า เป็นเบาหวาน
หากคุณอยากทราบว่าตัวเองเป็นเบาหวานหรือไม่ การตรวจสุขภาพประจำปี หรือ ตรวจเบาหวานโดยเฉพาะ จะช่วยให้คุณทราบได้อย่างแน่นอน ว่าร่างกายของคุณมีน้ำตาลในเลือดสูง จนเป็นโรคเบาหวานแล้วหรือยัง โดยการตรวจเบาหวานหลักๆ มีอยู่ด้วยกัน 4 วิธี ดังนี้
1. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด หลังอดอาหาร 8 ชั่วโมง โดยใช้วิธีการเจาะเลือด ซึ่งมีเกณฑ์วัดระดับน้ำตาล ดังนี้
- ระดับน้ำตาลในเลือด น้อยกว่า 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร แสดงว่า มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
- ระดับน้ำตาลในเลือด น้อยกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร แสดงว่า ปกติ
- ระดับน้ำตาลในเลือด อยู่ระหว่าง 100 – 125 มิลลิกรัม/เดซิลิตร แสดงว่า มีความเสี่ยง ต่อการเป็นโรคเบาหวาน
- ระดับน้ำตาลในเลือด เกิน 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตร แสดงว่า เป็นเบาหวาน
2. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด โดยไม่ต้องอดอาหาร โดยใช้วิธีการเจาะเลือด หากตรวจแล้ว มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ตั้งแต่ 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตรขึ้นไป แสดงว่า เป็นโรคเบาหวาน วิธีตรวจนี้เหมาะสำหรับผู้เป็นเบาหวานอยู่แล้ว หรือ มีอาการเบาหวาน อย่างชัดเจน เช่น หิวบ่อย คอแห้งบ่อย ปัสสาวะบ่อย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย สายตาพร่ามัว ชาตามมือและเท้า เป็นต้น
3. ตรวจการตอบสนองของอินซูลิน ต่อระดับน้ำตาลในเลือด โดยแพทย์จะให้ดื่มน้ำ ที่ผสมน้ำตาลกลูโคสละลาย 75 กรัม แล้วตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด 2 ชั่วโมงหลังการดื่มน้ำ หากระดับน้ำตาลในเลือดสูง ตั้งแต่ 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ขึ้นไป แสดงว่า เป็นโรคเบาหวาน
4. ตรวจระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม หรือ ฮีโมโกลบิน เอ วัน ซี (HbA1c) เป็นการดูว่าน้ำตาลกลูโคส ที่เข้าไปจับและเคลือบ เฮโมโกบินในเลือด สูงมากน้อยเท่าไหร่ หากพบว่าเปอร์เซ็นต์เม็ดเลือดแดง สูงตั้งแต่ 6.5% ขึ้นไป ถือว่าเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งวิธีตรวจเบาหวานรูปแบบนี้เหมาะสำหรับคนที่เป็นเบาหวานอยู่แล้ว แล้วต้องการติดตามผลการรักษาที่ผ่านมา หรือ คนที่เพิ่งเคยตรวจเบาหวาน แล้วอยากรู้ว่าระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา ตนเองเป็นเบาหวานแล้วหรือยัง
11 พฤติกรรมทำให้เป็นเบาหวาน
หากคุณไม่ได้เป็นเบาหวาน คุณจำเป็นต้องรู้ว่า พฤติกรรมใดบ้าง ที่จะทำให้เป็นเบาหวานขึ้นมาได้ จะได้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำลายสุขภาพเหล่านี้ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเอง เพราะเบาหวานเป็นโรคเรื้อรัง เป็นเบาหวานหายขาดไม่ได้ ทำได้แค่คุมน้ำตาล คุมเบาหวาน ไม่ให้อาการกำเริบขึ้นมานั่นเอง ซึ่ง 11 พฤติกรรมที่อาจทำให้คุณเป็นเบาหวานได้ มีดังต่อไปนี้
- ชอบรับประทานข้าวขาว
- ไม่รับประทานผัก หรือ ผลไม้
- ชอบรับประทานผลไม้ ที่มีน้ำตาลสูง เป็นประจำ เช่น ทุเรียน มะม่วงสุก องุ่น ลำไย เป็นต้น
- ชอบรับประทานอาหารรสหวาน น้ำหวาน เบเกอรี่ ช็อกโกแลต
- ชอบรับประทานเนื้อสัตว์ติดมัน ของมัน ของทอด
- ชอบรับประทาน อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน เป็นประจำ
- ชอบรับประทานอาหารรสเค็ม ขนมกรุบกรอบ
- ชอบรับประทานของหมัก ของดอง ผลไม้ดอง ผักดอง ปลาร้า
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เป็นประจำ
- ไม่ออกกำลังกาย
- ความเครียด และ การนอนหลับไม่เพียงพอ เช่น นอนหลังเที่ยงคืน เป็นประจำ มีส่วนส่งผลต่อระดับฮอร์โมนต่างๆในร่างกาย ที่มีส่วนทำให้เป็นเบาหวานมากขึ้น
กินสมุนไพรแก้เบาหวานอย่างไร ให้เบาหวานหายดี
การเลือกสมุนไพรแก้เบาหวาน หรือ สมุนไพรลดน้ำตาลในเลือด มาทานเองนั้น บางอย่างก็สามารถนำมาประกอบอาหาร ทำทานเองได้สบายๆ แต่การจะทาน สมุนไพรแก้เบาหวาน เพื่อให้เห็นผลในการรักษา จำเป็นต้องอยู่ในสูตรตำรับที่ลงตัว ดังนั้นยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ได้ตรงมากที่สุด นอกจากประหยัดเวลาแล้ว การปรุงสมุนไพรแก้เบาหวาน เพื่อให้เห็นผลในการรักษา จำเป็นต้องใช้ศาสตร์ และ องค์ความรู้ที่ถูกต้อง ทั้งการเลือกสมุนไพร การเก็บเกี่ยว เทคนิคการสกัดยาเฉพาะ เพื่อให้ได้สารสำคัญ ตัวยา ออกฤทธิ์ดี และ ครบถ้วน และป้องกันการเกิดผลข้างเคียงนั่นเอง
ซึ่งยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน “ตรีผลา FORTE” จากศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ เป็นลิขสิทธิ์การปรุงยาเฉพาะ ที่ผ่านการวิจัย การตรวจวิเคราะห์ความบริสุทธิ์ กระบวนการผลิต ความปลอดภัยจาก อ.ย. รับรองประสิทธิภาพ ในการรักษาเบาหวานได้ จนมีผู้ซื้อซ้ำ และ บอกต่อมากที่สุด ยาวนานกว่า 30 ปี
โดยสารสกัดจาก สมุนไพรแก้เบาหวาน ในตรีผลา FORTE มีมากกว่า 22 ชนิด เช่น สารสกัดดอกคำฝอย, สารสกัดกระวานเทศ, สารสกัดรางแดง, สารสกัดขิงแห้ง, สารสกัดสมอทั้ง 5 (สมอไทย สมอภิเภก สมอเทศ สมอดีงู สมอทะเล) เป็นต้น มีส่วนเข้าไปช่วยอาการเบาหวาน ไม่ว่าจะเป็น
- ปรับปรุงลึกถึงต้นเหตุ ของอินซูลิน ที่บกพร่อง
- ช่วยรักษา อาการเบาหวานแทรกซ้อน ตามอวัยวะต่างๆ เช่น เบาหวานขึ้นตา เบาหวานลงไต
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์
- ล้างไขมันเกาะตับ ไขมันพอกตับ ไขมันในเลือด ไขมันอุดตันเส้นเลือด
- ล้างเมือกมัน ตะกรันในลำไส้ ล้างพิษตับ ล้างน้ำเหลืองเสีย
- ปรับสมดุลขับถ่าย สมดุลความดัน
- ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย ลดเสี่ยงอาการเบาหวาน
- บำรุงปลายประสาท แก้อาการชาปลายมือ และ เท้า จากเบาหวานลงขา
โดยยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน ตรีผลา FORTE สกัดจากสมุนไพร 100% มากถึง 22 ชนิด ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลกับสารเคมีตกค้างในร่างกาย สามารถทานคู่กับ ยารักษาเบาหวาน แพทย์แผนปัจจุบันได้ หรือ ต่อให้ไม่ได้เป็นเบาหวาน ก็สามารถทานได้เช่นกัน เพื่อป้องกัน และ บำรุงสุขภาพไปในตัว สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
หากมีข้อสงสัยใด ๆ เพิ่มเติม สามารถคอมเมนต์สอบถามได้ เรามีเภสัชกร และ ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพ