นี่คือ 5 เหตุผลว่าทำไม ออกกำลังกาย เบาหวานดีขึ้น

นี่คือ 5 เหตุผลว่าทำไม ออกกำลังกาย เบาหวานดีขึ้น

แชร์ได้เลยค่ะ

การรักษาเบาหวานให้ดีขึ้นนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่การกินยารักษาเบาหวาน หรือ การควบคุมอาหารเท่านั้น แต่การออกกำลังกาย เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญ ที่จะทำให้อาการเบาหวานดีขึ้นได้ เพียงแต่ต้องรู้ถึงวิธีการออกกำลังกาย เบาหวานถึงจะดีขึ้นในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นประเภทกีฬาที่เหมาะสม ข้อควรทำ ข้อห้ามต่างๆ เพราะหากเป็นเบาหวาน ออกกำลังกายแบบขาดความรู้ ก็อาจจะทำให้ร่างกายทรุดหนักมากกว่าเดิมได้นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้ผู้ป่วยเบาหวาน ออกกำลังกายเป็นประจำ เพราะมีส่วนทำให้เบาหวานดีขึ้นได้จริง ด้วยเหตุผลดังนี้

คุมเบาหวาน ต้องออกกำลังกาย เบาหวานถึงดีขึ้นได้ เพราะช่วยลดน้ำตาลสะสมในเลือดโดยตรง ร่างกายไวต่ออินซูลินมากขึ้น

5 เหตุผลของการออกกำลังกาย เบาหวานดีขึ้น

5 เหตุผลของการออกกำลังกาย เบาหวานดีขึ้น
1. ช่วยลดและควบคุมน้ำหนัก
2. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
3. ช่วยลดปริมาณการทานยารักษาเบาหวาน
4. ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนเบาหวาน
5. ช่วยทำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า

โรคเบาหวาน เป็นโรคที่ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน หรือ อินซูลินลดน้อยลง จึงทำให้ปริมาณน้ำตาลค้างอยู่ในกระแสเลือด ก่อให้เกิดน้ำตาลในเลือดสูง และ เป็นเบาหวาน แต่การออกกำลังกาย จะช่วยทำให้เบาหวานดีขึ้นได้ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1. ช่วยลด และ ควบคุมน้ำหนัก

สาเหตุเบาหวาน ส่วนหนึ่งมาจากน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น น้ำหนักเกินมาตรฐาน เป็นโรคอ้วน และ เกิดกับคนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย ดังนั้นถ้าออกกำลังกาย เบาหวานจะดีขึ้นได้ เพราะมีส่วนช่วยทำระบบเผาผลาญดีขึ้น น้ำหนักลดลง ไขมันสะสมในร่างกายลดลง โรคเบาหวานก็จะดีขึ้นตามลำดับ ส่วนคนที่ไม่เป็นเบาหวาน ออกกำลังกายเป็นประจำ ก็ช่วยลดโอกาสเสี่ยง ในการเป็นเบาหวานได้เช่นกัน

2. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

ระดับน้ำตาลในเลือด มีผลต่อโรคเบาหวานโดยตรง ซึ่งการออกกำลังกาย มีส่วนสำคัญในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อจะดึงน้ำตาลในกระแสเลือดมาใช้ ทำให้ระบบจัดการน้ำตาลดีขึ้น อินซูลินสามารถทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายไวต่ออินซูลินมากขึ้นนั่นเอง

3. ช่วยลดปริมาณการทานยารักษาเบาหวาน

สำหรับคนที่เป็นเบาหวาน ออกกำลังกายเป็นประจำ นอกจากจะช่วยทำให้อาการเบาหวานดีขึ้นตามลำดับแล้ว ก็ยังสามารถลดปริมาณยารักษาเบาหวานที่ทานได้ด้วย เพราะเมื่อร่างกายดีขึ้น ยารักษาเบาหวานบางตัว ก็อาจไม่จำเป็นต้องใช้ สารเคมีสะสมในร่างกาย จากการกินยารักษาเบาหวานที่เป็นยาเคมีก็ลดน้อยลง

4. ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนเบาหวาน

หากปล่อยให้เป็นเบาหวานนาน โดยไม่รักษา และ ไม่ดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด จะก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้ ไม่ว่าจะเป็น ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เบาหวานขึ้นตา เบาหวานลงเท้า เบาหวานลงไต อาการชาตามปลายนิ้ว โรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น ซึ่งการออกกำลังกาย เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยป้องกัน และ ลดโอกาสเสี่ยง ต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนเบาหวานได้เป็นอย่างดี

5. ช่วยทำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า

การออกกำลังกาย เป็นการเติมความสดชื่น สดใสให้กับชีวิต สามารถสร้างความกระปรี้กระเปร่า กระฉับกระเฉงให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี และช่วยทำให้ผ่อนคลายจากความเครียดได้ด้วย เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานบางราย อาจเกิดความเครียด หากยิ่งเครียด อาการก็จะทรุดโดยอัตโนมัติ ดังนั้นหากคุณเป็นเบาหวาน ออกกำลังกายช่วยคุณได้จริง เพราะดีต่อสุขภาพกาย และ สุขภาพจิต อาการเบาหวานดีขึ้นตามลำดับ อีกทั้งยังช่วยทำให้ประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตดีขึ้นด้วย

เป็นเบาหวาน ออกกำลังกายได้ แต่ต้องรู้สิ่งนี้

สำหรับการออกกำลังกาย ขณะที่เป็นเบาหวานอยู่นั้น จำเป็นต้องทราบถึงข้อควรทำ และ ข้อห้ามต่างๆ ก่อนออกกำลังกาย เนื่องจากมีข้อจำกัดบางอย่าง ของผู้ป่วยเบาหวาน ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อความปลอดภัยในชีวิต ดังนั้นเพื่อให้การออกกำลังกาย เป็นประอย่างมีประสิทธิภาพ อาการเบาหวานดีขึ้น เราแนะนำให้ทำตามคำแนะนำของเราดังต่อไปนี้

  • ข้อควรทำ ในการออกกำลังกาย เบาหวานดีขึ้น
  1. ตรวจดูร่างกายตนเอง ก่อนออกกำลังกาย ว่ามีแผลหรือไม่ เช่น แผลรองเท้ากัด แผลพุพอง แผลหนอง เพราะหากเป็นแผลแล้วออกกำลังกาย เบาหวานอาจลุกลามไปยังส่วนอื่นได้ ต้องรักษาแผลเบาหวานให้หายดีเสียก่อน
  2. สวมเสื้อผ้า ที่สามารถระบายอากาศได้ดี
  3. สวมรองเท้า ให้เหมาะกับประเภทของกีฬา เหมาะกับรูปเท้าของตนเอง สามารถรับแรงกระแทก กันลื่นได้ พร้อมกับสวมถุงเท้า เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และ แผลเบาหวาน ที่อาจเกิดขึ้นจากรองเท้ากัด
  4. พกบัตรประจำตัวระบุโรค เพราะหากเป็นเบาหวาน ออกกำลังกายนอกสถานที่ แล้วเกิดเหตุฉุกเฉิน หมดสติ จะได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกวิธี
  5. พกลูกอม หรือ น้ำหวานติดตัวไว้ เผื่อน้ำตาลต่ำขณะออกกำลังกาย
  6. ออกกำลังกาย หลังมื้ออาหาร ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง
  7. ดื่มน้ำให้เพียงพอ ทั้งก่อนออกกำลังกาย ระหว่างออกกำลังกาย และ หลังออกกำลังกาย เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ
  8. อบอุ่นร่างกาย ยืดเส้นกล้ามเนื้อ ทุกครั้งก่อนออกกำลังกาย ประมาณ 5 – 10 นาที เพื่อลดโอกาสการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ
  9. หลังออกกำลังกายเสร็จ ให้ค่อยๆ เคลื่อนไหวร่างกายช้าๆ เพื่อให้ร่างกายเย็นลง หรือ ที่เรียกว่า คูลดาวน์ (Cooldown) ประมาณ 5 – 10 นาที
  10. หากรู้สึกปวดหัว วิงเวียนศีรษะ หรือ เกิดความผิดปกติบางอย่างในร่างกาย ขณะออกกำลังกายอยู่ ให้ทำการคูลดาวน์ แล้วพัก หากอาการไม่ดีขึ้น ให้ไปพบแพทย์ทันที
  11. ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 3 – 5 วัน/สัปดาห์ ครั้งละประมาณ 30 นาที และควรออกกำลังกายในเวลาเดิม ของทุกๆ วัน
  12. พักผ่อนให้เพียงพอ ก่อนออกกำลังกาย
  13. ก่อนออกกำลังกาย ควรตรวจค่าน้ำตาลในเลือด หากต่ำกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ให้ทานคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม เช่น กล้วยน้ำว้า 1 ผล, น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ เพื่อป้องกันน้ำตาลในเลือดต่ำ ขณะออกกำลังกาย
  14. หลังออกกำลังกาย ควรตรวจน้ำตาลในเลือดด้วย หากน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ให้ทานคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม เพื่อป้องกันน้ำตาลในเลือดต่ำเช่นกัน
  • ข้อห้าม ในการออกกำลังกาย เบาหวานแย่ลง
  1. ห้ามออกกำลังกาย หากน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
  2. ห้ามออกกำลังกาย ท่ามกลางอากาศร้อนจัด หรือ เย็นจัด
  3. ห้ามออกกำลังกาย หลังรับประทานอาหารเสร็จทันที
  4. ห้ามออกกำลังกาย ขณะป่วย เช่น เป็นไข้ ใจสั่น เจ็บหัวใจ วิงเวียน ฯลฯ เพราะจะทำให้อาการเบาหวานแย่ลง
  5. ห้ามออกกำลังกาย ที่ใช้แรงมากจนเกินไป เช่น ยกน้ำหนัก วิ่งเร็ว
  6. หากพักผ่อนไม่เพียงพอ ห้ามออกกำลังกายเด็ดขาด
  7. หากน้ำตาลในเลือดสูงเกิน 250 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (เบาหวานชนิดที่ 1) หรือ น้ำตาลในเลือดสูงเกิน 300 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (เบาหวานชนิดที่ 2) หรือ มีภาวะเลือดเป็นกรดสูง ไม่ควรออกกำลังกาย
  8. หากเพิ่งฉีดอินซูลิน รักษาเบาหวาน ห้ามออกกำลังกายขณะที่ยาออกฤทธิ์สูงสุด
  9. หากเป็นเบาหวาน มีโรคหัวใจ มีภาวะแทรกซ้อนเบาหวาน ที่เกี่ยวกับหัวใจ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ ห้ามออกกำลังกายที่มีการออกแรงมาก เช่น วิ่งเร็ว เตะฟุตบอล ยกน้ำหนัก เป็นต้น ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย
  10. หากเบาหวานขึ้นตา ห้ามออกกำลังกายที่ใช้แรงต้านมาก เช่น โยคะ ยกน้ำหนัก
  11. ห้ามผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนเบาหวาน ที่เส้นประสาท ชาปลายนิ้วจากเบาหวาน ออกกำลังกายด้วยวิ่ง หรือ กระโดดเชือกอย่างเด็ดขาด เพื่อลดแรงกระแทก

เป็นเบาหวาน ออกกำลังกาย แบบไหนดี

เป็นเบาหวาน ออกกำลังกาย แบบไหนดี
เต้นแอโรบิก 
เดินเร็ว 
วิ่งเบาๆ 
ว่ายน้ำ  
ปั่นจักรยาน 
วิดพื้น 
ซิทอัพ 
ยกดัมเบล

หากถามว่า เป็นเบาหวาน ออกกำลังกาย แบบไหนดี เราขอแนะนำว่า การออกกำลังกาย ของผู้ที่เป็นเบาหวาน ควรเป็นการออกกำลังกาย ที่ไม่ใช้แรงหนักมากจนเกินไป หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายด้วยท่าที่ต้องเกร็งค้างไว้นาน และ ไม่ควรใช้แรงต้านที่มากเกินไป เช่น

  • เต้นแอโรบิก
  • เดินเร็ว
  • วิ่งเบาๆ
  • ว่ายน้ำ 
  • ปั่นจักรยาน
  • วิดพื้น
  • ซิทอัพ
  • ยกดัมเบล   

ที่สำคัญต้องไม่ลืมตรวจค่าน้ำตาลในเลือดก่อนออกกำลังกาย อบอุ่นร่างกาย ยืดเส้นกล้ามเนื้อ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 3 – 5 วัน/สัปดาห์ ครั้งละประมาณ 30 นาที และ ควรออกกำลังกายในเวลาเดิม ของทุก ๆ วัน

ยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน ทางเลือกรักษาเบาหวาน แบบไร้สารเคมี

นอกจากการออกกำลังกาย เบาหวานจะดีขึ้นแล้ว อีกหนึ่งการรักษาเบาหวานด้วยตัวเอง ให้ดีขึ้นได้ ก็คือ การทานยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน ที่สกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ 100% ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งข้อดีของการทานยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน ก็คือ สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดสารเคมีตกค้างในร่างกาย อันเป็นผลมาจากการทานยารักษาเบาหวานแผนปัจจุบัน ที่ต้องทานเป็นประจำ ติดต่อนาน พอหมดฤทธิ์ยาก็อาจเป็นมากขึ้น รวมไปถึงลดโอกาสในการฉีดอินซูลิน ที่อาจจะต้องฉีดไปตลอดชีวิตด้วย

ตรีผลา FORTE สกัดสมุนไพรแก้เบาหวาน 22 ชนิด ดูแลลึกถึงต้นเหตุโรคเบาหวาน
ค่าน้ำตาลในเลือดดีขึ้น เช็คผลได้!

ยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน “ตรีผลา FORTE” จากศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ เป็นยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน ที่ปรุงในสูตรตำรับลงตัว ตามหลักของแพทย์แผนไทย เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ได้รับการรับรอง ผ่านการตรวจวิเคราะห์ความบริสุทธิ์ และ ความปลอดภัยจาก อย. ถึงประสิทธิภาพในการรักษาเบาหวาน จนมีผู้ซื้อซ้ำ และ บอกต่อมากที่สุด ยาวนานกว่า 30 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาเบาหวานด้วยตัวเอง สามารถทานควบคู่กับการออกกำลังกาย เบาหวานดีขึ้นได้ ตามลำดับ เป็นการรักษาเบาหวาน ลึกถึงต้นเหตุ ด้วยสารสกัดจากสมุนไพรแก้เบาหวาน มากถึง 22 ชนิด เช่น

  • สารสกัดสมอทั้ง 5 ได้แก่ สมอไทย สมอภิเภก สมอเทศ สมอดีงู สมอทะเล
  • สารสกัดดอกคำฝอย
  • สารสกัดดีปลี
  • สารสกัดขิงแห้ง
  • สารสกัดเจตมูลเพลิง
  • สารสกัดกระวานเทศ
  • สารสกัดทองพันชั่ง 2 สายพันธุ์ ได้แก่ ทองพันชั่งดอกขาว และ ทองพันช่างดอกเหลือง
  • สารสกัดชุมเห็ดไทย
  • สารสกัดแก่นขี้เหล็ก
  • สารสกัดกำแพงเจ็ดชั้น
  • สารสกัดเถาวัลย์เปรียง

ซึ่งสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ ที่อยู่ใน ยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน ตรีผลา FORTE นี้ มีส่วนช่วยรักษาเบาหวาน ถึงต้นเหตุของโรค ไม่ว่าจะเป็น

  1. ช่วยเคลียร์น้ำตาลในเลือด น้ำตาลสะสม
  2. ช่วยเคลียร์หลอดเลือดส่วนปลายที่แข็ง  
  3. ช่วยบำรุงตับ ปรับปรุงตับอ่อน ที่ทำหน้าที่หลั่งอินซูลิน ให้ทำงานได้ดีขึ้น กลับสู่สภาวะปกติ
  4. ช่วยลดคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ ล้างไขมันเกาะตับ ไขมันพอกตับ ล้างไขมันในเลือด ไขมันอุดตันเส้นเลือด
  5. ล้างเมือกมัน ตะกรันในลำไส้ ล้างพิษตับ ล้างน้ำเหลืองเสีย
  6. ช่วยปรับสมดุลการขับถ่าย
  7. ความดันโลหิตดีขึ้น
  8. ล้างน้ำเหลืองเสีย ช่วยทำให้แผลหายเร็ว แผลเบาหวาน แผลหายยาก ช่วยได้โดยตรง
  9. ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย
  10. ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต บำรุงปลายประสาท แก้อาการชาปลายมือ และ เท้า
  11. ช่วยป้องกันเบาหวานลงไต ได้เป็นอย่างดี
  12. ไม่ต้องมีอาการเบาหวาน ก็ทานได้ เพราะช่วยบำรุงร่างกายทั้งระบบ

สำหรับใครที่ทานยารักษาเบาหวาน แพทย์แผนปัจจุบันอยู่แล้ว ก็สามารถทานควบคู่กับ ยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน ตรีผลา FORTE ได้ หรือ จะเลือกทานยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน ตรีผลา FORTE ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายก็ได้ แล้วจะพบว่า หลังทานไปแล้ว 2 – 3 เดือนขึ้นไป แล้วไปตรวจซ้ำ จะพบว่า ผลการตรวจค่า LAB ต่าง ๆ เช่น ความดัน ระดับน้ำตาล คอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ ค่าตับ ความหนืดของเลือด มีการเปลี่ยนแปลง ดีขึ้นตามลำดับ และ ได้ลดยาเคมีลงเรื่อย ๆ จนดีได้เองโดยไม่ต้องพึ่งยาไปตลอดชีวิตได้ในที่สุด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่


แชร์ได้เลยค่ะ

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top