เทคนิครักษาสิวด้วยตัวเอง อาหารรักษาสิว เป็น สิว ห้าม กิน อะไร

หากคุณกำลังเป็นสิว สิวขึ้นบ่อย ไม่ว่าจะเป็น สิว ผด, สิว อุด ตัน, สิวเสี้ยน, สิว หัว ขาว, สิว หัว ช้าง, สิวหัวหนอง หรือสิวชนิดไหนก็ตามแต่ วันนี้เรามีเทคนิค การรักษาสิวด้วยตัวเอง มาฝากกัน ซึ่งมีวิธีดูแลรักษา สิว ทั้งภายนอก และ ภายใน รับรองว่าทำตามได้ไม่ยาก แล้วหน้าจะใสขึ้น ไม่กลับมาเป็นสิวง่าย แถมสุขภาพภายใน ดีขึ้นด้วย อย่างแน่นอน

แนะหลากวิธี รักษาสิวด้วยตัวเอง จากภายนอก

ก่อนอื่นคุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “หัวใจสำคัญ ของการรักษา สิว ต้องมีการดูแลทั้งภายนอก และ ภายใน” ซึ่งสิ่งสำคัญ ของการรักษา สิวภายนอก คือ การล้างใบหน้าให้สะอาด เพราะหากคุณล้างใบหน้าไม่สะอาด ต่อให้ทายารักษา สิว ก็มีโอกาสที่สิว จะกลับมาขึ้นเหมือนเดิมได้ และ ต้องทำควบคู่ไปกับการรักษา สิว จากภายใน ด้วยการทานอาหารที่เป็นประโยชน์ เพราะอาหารรักษาสิวได้ พร้อมกับหลีกเลี่ยงอาหาร ที่ก่อให้เกิดสิว ซึ่งเทคนิคการรักษาสิวด้วยตัวเอง จากภายนอก มีดังต่อไปนี้

1. เช็ดเครื่องสำอางให้สะอาด 

เช็ดเครื่องสำอางให้สะอาด ด้วยคลีนซิ่งสูตรอ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม Mineral Oil (น้ำมันที่เหลือจากกระบวนการ ปิโตเลียม ส่งผลเสียต่อผิวร้ายแรง) SLS พาราเบน และ สีสังเคราะห์ ก่อนล้างหน้าด้วยโฟม

2. ล้างหน้าให้สะอาด

ล้างหน้าให้สะอาด เพราะแต่ละวัน ใบหน้าของเราเจอมลภาวะ และ สิ่งสกปรกมากมาย แม้ไม่ได้แต่งหน้า ก็ต้องล้างหน้าให้สะอาด เพราะหากล้างหน้าไม่สะอาด จะทำให้สิวไม่หาย และ มีโอกาสเกิดสิว อุด ตัน และ สิว อักเสบ เพิ่มมากขึ้นด้วย

3. ไม่ใช้น้ำอุ่นล้างหน้า

ไม่ใช้ น้ำอุ่นล้างหน้า เพราะน้ำอุ่น จะไปเปิดรูขุมขน ทำให้น้ำมันบนใบหน้า เสียความสมดุล หน้าจะแห้ง เกิดสิว และ ริ้วรอยได้ง่าย

4. ใช้โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน

เลือกใช้โฟมล้างหน้า ที่เป็นสูตรอ่อนโยน ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดสิว ได้แก่ แอลกอฮอล์ น้ำหอม น้ำมัน Mineral Oil (น้ำมันที่เหลือจากกระบวนการ ปิโตเลียม ส่งผลเสียต่อผิวร้ายแรง) SLS พาราเบน และ สีสังเคราะห์

5. ไม่ใช้โฟมล้างหน้า ที่มีเม็ดสครับ

ไม่ใช้โฟมล้างหน้า ที่มีเม็ดสครับ ขณะที่หน้าเป็นสิว เพราะเป็นการไปกระตุ้น ทำให้สิว อักเสบ เพิ่มขึ้นได้

6. ไม่ล้างหน้าบ่อย 

ไม่ล้างหน้าบ่อย เพราะจะทำให้ผิวหน้าแห้งตึง เกิดการผลิตน้ำมันเพิ่มออกมา และ หน้าจะมันยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดสิวตามมาด้วย

7. ไม่ขัด หรือ ถูหน้าแรง

การขัด หรือ ถูหน้าแรง ๆ จะทำให้สิว อักเสบขึ้นได้ ทำให้ผิวหน้าถูกทำร้าย มีโอกาสเกิดริ้วรอย ตามมาด้วย

8. ไม่บีบ สิวเด็ดขาด 

การรักษาสิวด้วยตัวเอง ต้องไม่บีบ สิว หรือ แกะสิว เพราหากสิวมีหลายหัว แล้วบีบ สิวออกไม่หมด มีโอกาสเสี่ยง ที่สิวจะบวม แดง กลายเป็นสิว อักเสบ และ เชื้อโรคจะเข้าไปทำให้เกิดสิวหัวหลายมากขึ้น มีรอยแดง รอยดำ และ แผลเป็นเกิดขึ้นได้

9. ไม่เอามือสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ

อย่าลืมเตือนตนเองอยู่เสมอ ว่าห้ามเอามือไปจับใบหน้าบ่อย ๆ เพราะเป็นการรบกวนผิว อีกทั้งมือของเรา มีสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็น ซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นสิวซ้ำซาก สิว อักเสบมากขึ้น

10. ซักเครื่องนอนอย่างสม่ำเสมอ

หากต้องการรักษาสิวด้วยตัวเอง ต้องไม่ละเลย ในการซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และ ผ้าห่ม ทุกสัปดาห์ เพราะเครื่องนอนทั้งหลาย มีไรฝุ่น คราบน้ำลาย แบคทีเรีย ที่เรามองไม่เห็น หากปล่อยหมักหมมไว้ แล้วใบหน้าของเราสัมผัสสิ่งเหล่านี้ทุกวัน ก็ไม่มีทาง ที่สิวจะหายได้

11.หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม

หากคุณเป็นสิว อุด ตัน สิว อักเสบ หรือสิวผด บริเวณกรอบหน้า หน้าผาก แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม และ น้ำมันบำรุงผม เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้ มีส่วนทำให้เกิดสิวได้   

12. หลีกเลี่ยงแสงแดด

หากคุณกำลังเป็นสิว หรือ มีผิวมัน แนะนำให้หลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะแสงแดด จะกระตุ้นให้ร่างกาย ผลิตน้ำมันมากขึ้น เมื่อน้ำมัน ผสมกับ ความหนาของผิวชั้นบน จะทำให้เกิดรูขุมขนอุดตัน สิว อักเสบได้

13. สระผมเป็นประจำ 

สระผมเป็นประจำ เพราะหากเส้นผมเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก แล้วสัมผัสกับใบหน้า จะส่งผลให้เกิดสิวบนใบหน้าได้ อีกทั้งสามารถเกิดสิวบนหนังศีรษะได้ด้วย ทั้งนี้แนะนำให้เลือกแชมพู ที่ปราศจากซิลิโคน พาราเบน น้ำมัน SLS และสารเคมีที่ก่อให้เกิดสิว จะช่วยรักษา สิว ให้หายได้ไว

14. พักผ่อนให้เพียงพอ 

พักผ่อนให้เพียงพอ และ ไม่นอนดึก เพราะในขณะที่เรานอนหลับ ร่างกายจะทำการซ่อมแซมตัวเอง ผิวสดใส อิ่มฟู สิวหายได้ไวยิ่งขึ้น

15. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ระบบไหลเวียนโลหิต สูบฉีดได้ดี ผิวแข็งแรง

16. ทำความสะอาด อุปกรณ์แต่งหน้า 

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญ ของการรักษาสิวด้วยตัวเอง ที่สาว ๆ หลายคนมองข้าม คือการทำความสะอาด อุปกรณ์แต่งหน้า สัปดาห์ละครั้ง เพราะหากปล่อยไว้นาน จะเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย ก่อให้เกิดสิว อุด ตันขึ้นได้

17. เช็ดหน้าจอโทรศัพท์มือถือ

เช็ดหน้าจอโทรศัพท์มือถือ อย่างสม่ำเสมอ เพราะหน้าจอโทรศัพท์เป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละออง เชื้อแบคทีเรีย ที่เรามองไม่เห็น รวมไปถึงคราบเหงื่อบ คราบเครื่องสำอาง หากใบหน้าของเรา แนบกับโทรศัพท์เป็นประจำ ก็จะยิ่งเสี่ยง ต่อการเกิดสิว บริเวณแก้ม และ กรอบหน้าได้ง่าย หากใครที่สิวขึ้นเป็นประจำ ลองหมั่นเช็ดหน้าจอโทรศัพท์มือถือดู รับรองว่าสิว อุด ตัน สิว อักเสบ สิว ผด ลดลงอย่างแน่นอน

18. งดสูบบุหรี่ 

งดสูบบุหรี่ และ หลีกเลี่ยงการสูดดมควันบุหรี่ เพราะสารพิษในควันบุหรี่ มีส่วนทำให้สิว อุด ตัน รูขุมขนกว้างขึ้น

19. ใช้พืช สมุนไพร รักษา สิว

การใช้พืช สมุนไพร รักษา สิว เป็นวิธีรักษาสิวด้วยตัวเอง ที่ง่าย และ หลายคนนิยมใช้ ไม่ต้องเสี่ยงกับสารเคมีตกค้างบนใบหน้า เช่น ใช้ดินสอพองผสมน้ำ ใช้โยเกิร์ตผสมน้ำผึ้ง ใช้มะเขือเทศหั่นแว่น แล้วพอกหน้า เป็นต้น

20. ใช้ยารักษา สิว

การใช้ยารักษา สิว เป็นวิธีรักษาสิวด้วยตัวเอง ที่หายดีได้ไว สามารถหาซื้อได้ง่าย มีทั้งยากิน และ ยาทา ทั้งนี้แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง หรือ เภสัชกร ก่อนการใช้ยา

รักษาสิวด้วยตัวเอง จากภายใน ต้องรู้! เป็น สิว ห้าม กิน อะไร

เมื่อทราบวิธีรักษาสิวด้วยตัวเอง จากภายนอก ไปแล้ว สิ่งสำคัญของคนที่กำลังรักษา สิว ต้องรู้ คือ เป็น สิว ห้าม กิน อะไร หรือ ควรหลีกเลี่ยง การทานอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้ ไม่ไปกระตุ้น ให้สิว อักเสบ เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

1. ของมัน ของทอด 

เป็น สิว ห้าม กิน อะไร? สิ่งแรกเลยก็คือ ของมัน ของทอด เพราะในน้ำมันพืช และ ไขมันทรานซ์ มีกรดไขมัน ที่จะไปกระตุ้นต่อมไขมัน ทำให้สิว อักเสบเพิ่มขึ้น หรือ ทำให้สิวขึ้นง่ายนั่นเอง  

2. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เป็น สิว ห้าม กิน อะไร? หนึ่งในนั้น คือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีผลทำให้ระบบความสมดุลในร่างกายผิดปกติ ภูมิคุ้มกันต่ำลง ก่อให้เกิดการอักเสบ ของเซลล์เนื้อเยื่อในร่างกาย หลอดเลือดใต้ชั้นผิวหนังขยาย รูขุมขนกว้าง ร่างกายขับออกเสีย ออกทางผิวหนัง ก่อให้เกิดสิว อุด ตัน สิว อักเสบ บนในหน้า ขึ้นมาได้ ดังนั้นหากกำลังรักษาสิวด้วยตัวเองอยู่ แนะนำให้งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปก่อน จะดีกว่า

3. แป้งขัดขาว ของหวาน เบเกอรี่

แป้งขัดขาว ของหวาน เค้ก เบเกอรี่ต่าง ๆ ที่มีแป้งขัดขาว เป็นส่วนประกอบ มีผลทำให้เกิดสิว และ รักษา สิวไม่หาย เพราะอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง ไม่ว่าจะมาจากน้ำตาล หรือ คาร์โบไฮเดรต มีผลต่อการผลิตอินซูลิน ที่ไปกระตุ้นฮอร์โมนเอนโดรเจน หรือ ฮอร์โมนเพศชายในร่างกาย ที่ทำให้เกิดการผลิตไขมันส่วนเกิน ทำให้เกิดสิว อุด ตัน นั่นเอง

4. อาหารรสจัด

เป็น สิว ห้าม กิน อะไร? หนึ่งในนั้น คือ อาหารรสจัด โดยเฉพาะรสเผ็ดจัด จะทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น เกิดการกระตุ้นให้เหงื่อออก น้ำมันจากต่อมไขมัน ผลิตออกมามากกว่าเดิม และน้ำมันเหล่านี้ หากรวมตัวกับสิ่งสกปรกบนใบหน้า หรือ เครื่องสำอาง ก็เป็นสาเหตุ ที่ทำให้สิวบนใบหน้า เกิดการอักเสบ มากกว่าเดิมได้

5. นม และ ผลิตภัณฑ์จากนม

นม และ ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส  เนย โยเกิร์ต ครีม มีส่วนกระตุ้นให้เกิดสิว และ สิวไม่หาย เนื่องจากเวย์ (whey) และ เคซีน (casein) ที่เป็นโปรตีนในนม จะไปเพิ่มระดับอินซูลินในเลือดให้สูงขึ้น รวมถึงโกรทฮอร์โมน ที่เป็นตัวแปรสำคัญ ในการกระตุ้นให้เกิดสิว และมีโปรตีนบางชนิดในนม ที่ย่อยยาก จะส่งผลให้ระบบขับถ่ายทำงานหนัก หากไม่ขับถ่าย ก็จะทำให้เกิดสิวง่ายด้วย

อยากรักษา สิวให้หาย ลองกินอาหารรักษาสิวดู

อีกหนึ่งวิธีรักษาสิวด้วยตัวเอง คือ การทานอาหารให้เป็นยา และนี่คืออาหารรักษาสิว ช่วยให้สิว และ ผิวดีขึ้นได้ ที่เราแนะนำให้หามากิน

• น้ำมันปลา 

หากกำลังรักษาสิวด้วยตัวเองอยู่ น้ำมันปลา เป็นหนึ่งในอาหารรักษาสิวที่ดี เพราะอุดมไปด้วยสารอาหาร ที่ดีต่อสุขภาพผิว โดยเฉพาะโอเมก้า 3 ที่มีส่วนช่วยลดการอักเสบ ลดสิว อักเสบได้

• ปลาแซลมอน

ปลาแซลมอน เป็นอาหารรักษาสิว ที่มีโอเมก้า 3 สูงมาก ซึ่งเป็นตัวช่วยลดการอักเสบของสิว อีกทั้งยังช่วยปรับฮอร์โมนแอนโดรเจน ในร่างกาย ยับยั้งสารที่ก่อให้เกิดสิวชนิดต่าง ๆ ได้

• ผักใบเขียว

นอกจากผักใบเขียว จะทำให้ระบบย่อยอาหาร และ ระบบขับถ่ายดี ไม่เกิดอาการท้องผูก หรือ ของเสีย พิษต่าง ๆ ตกค้างในลำไส้ อันก่อให้เกิดสิวได้แล้ว ผักใบเขียว ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ สังกะสี ซิงค์ โดยเฉพาะคะน้า ผักเคล และ บล็อกโคลี ที่มีสารซัลโฟราเฟน ช่วยทำลายแบคทีเรีย ที่ก่อให้เกิดสิว ช่วยลดสิว อักเสบได้

• แครอท 

ในแครอท อุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ ที่ช่วยรักษารอยสิว รอย ให้จางลง วิตามินซี ที่ช่วยลดการอักเสบ สิว อักเสบ ช่วยให้เซลล์ผิวของเราแข็งแรงยิ่งขึ้น วิตามินอี ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยบำรุงผิวพรรณ ปรับค่า pH ในผิวให้สมดุล ขับล้างสารพิษ ไม่ให้ตกค้างในร่างกาย จึงเป็นการช่วยรักษา สิวได้ดี รวมถึงช่วยยับยั้งไม่ให้สิวขึ้นใหม่ด้วย 

• อะโวคาโด

อะโวคาโด อาหารรักษาสิวชั้นดี ที่อุดมด้วยวิตามินมากมาย เช่น วิตามินเอ ที่ช่วยลดสิว อักเสบ วิตามินอี ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง กรดไขมันจากธรรมชาติ ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว ซิงค์ และ วิตามินบี 6 ที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน ลดสิวฮอร์โมน เป็นต้น

• ชาเขียว 

อาหารรักษาสิว อีกอย่างที่เห็น และ ทานกันอยู่บ่อย ๆ ก็คือ ชาเขียว ในชาเขียว อุดมไปด้วยสารคาเทชิน (Catechins) ซึ่งในคาเทชิน จะมีสาร Epigallocatechin-3-gallate (EGCG) อยู่ ซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้ง และ ลดสิว อักเสบ ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ ยังมีสารโพลีฟีนอล (Polyphenols) ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ต่อมไขมันบนใบหน้า ผลิตน้ำมันส่วนเกิน จนทำให้เกิดสิว อุด ตัน ทั้งนี้ หากใครต้องรักษาสิวด้วยตัวเอง แล้วอยากหาชาเขียวมาทาน แนะนำให้เป็นชาเขียวต้มสด จะดีที่สุด แต่อาจเลี่ยงในคนที่ทานชาแล้วทำให้นอนไม่หลับ

• อัลมอนด์ 

อัลมอนด์ อีกหนึ่งอาหารรักษาสิว ที่อุดมด้วยสารอาหาร ที่มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น สารต้านอนุมูลอิสระ กรดไขมันโอเมก้า 3 โปรตีน วิตามินอี แมกนีเซียม ซิลิเนียม ที่ช่วยรักษา สิว ฟื้นฟูเซลล์ผิว ให้เรียบเนียน ลดฮอร์โมนความเครียด อันเป็นสาเหตุ ที่ทำให้สิว อักเสบ สิวเห่อ ขึ้นมาได้

• มังคุด

ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมมังคุด ถึงได้ฉายาว่า เป็นราชินีแห่งผลไม้ เพราะว่ามังคุด เป็นผลไม้ เป็นอาหารรักษาสิวได้ด้วย เนื่องจากอุดมไปด้วยสารสำคัญต่าง ๆ ที่ช่วยต้านแบคทีเรีย ลดสิว อักเสบ สิวหัวหนอง ลดการอักเสบของผิว รอยแดง รอยแผลเป็นจากสิว ชะลอความแก่ของเซลล์ผิว ฯลฯ

นอกจากนี้ การดื่มน้ำเปล่า ให้เพียงพอ ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ร่างกาย กำจัดของเสียได้ดี ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ผิวแข็งแรง ส่งผลให้สิว ไม่ว่าจะเป็นสิว ผด สิว อักเสบ สิว หัว ช้าง สิวหัวหนอง ดีขึ้นได้ไว และต้องพักผ่อนให้เพียงพอด้วย

หลุดพ้นจากวงจรสิว กับเทคนิครักษาสิวด้วยตัวเอง จากสมุนไพร

เทคนิคการรักษา สิว ที่จะช่วยให้คุณ หลุดพ้นจากวงจรสิว ที่ชอบขึ้นซ้ำซากได้ ไม่ใช่การใช้ยาทารักษาสิว ฉีดสิว หรือ การเลเซอร์หน้า แต่สิ่งที่จะช่วยได้ คือ การรักษา สิว จากภายใน ต่างหาก เพราะหากระบบภายในร่างกายดี มีความสมดุล ไม่มีสารพิษ ของเสียตกค้าง ก็จะส่งผลดี ออกมาสู่ภายนอก ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส ไร้สิว ซึ่งการเลือกกินอาหารรักษาสิว และ การรู้ว่า เป็น สิว ห้าม กิน อะไร คือสิ่งสำคัญ หากปรับพฤติกรรมทำร้ายผิว เลือกกินอาหาร ทำตามคำแนะนำ ที่เราบอกไปข้างต้น รับรองว่า ใบหน้าของคุณ ดีขึ้นอย่างแน่นอน บางคนสิวขึ้นน้อย ไม่จำเป็นต้องใช้ยารักษา สิวเลยด้วยซ้ำ

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สำหรับคนที่เป็นสิวขึ้นบ่อย สิวเห่อ การรักษา สิวด้วยการใช้ยา คือ สิ่งที่จำเป็นเช่นกัน แต่จะดีกว่าไหม? หากคุณได้ทานยารักษา สิว ที่ช่วยรักษา สิว จากภายในจริง ๆ ระบบภายในได้รับการฟื้นฟู แถมยานั้น มีส่วนประกอบเป็นสมุนไพร 100% ไม่เป็นอันตราย ไม่เสี่ยงต่อสารเคมีตกค้างในร่างกาย เปรียบเสมือนการทานอาหารที่มีประโยชน์ และ ได้รับผลลัพธ์ ด้านการรักษา สิวไปในตัว เรียกว่าได้รับคุณประโยชน์หลายต่อเลยทีเดียว

“ตรีผลา” ยาสมุนไพร รักษา สิว ของศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ สามารถตอบโจทย์ ในเรื่องการฟื้นฟูระบบภายใน และ รักษา สิว ได้ตามที่กล่าวไปข้างต้น เป็นสูตรตำรับเฉพาะ หนึ่งเดียว ลิขสิทธิ์หมอออรรถวุฒิ สกัดจากสมุนไพร รักษา สิว ออแกนิค 100% ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “ยา” การันตีถึงประสิทธิภาพ ในการรักษา สิวได้จริง ปราศจากสเตียรอยด์ ไม่เป็นอันตราย ไม่ส่งผลเสียต่อตับ ไต อยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์แผนไทย และ เภสัชกร มีมาตรฐานการผลิต GMP มีผลการวิจัยรองรับทั้งไทย และ ต่างประเทศ ได้รับการรับรองจาก อย. มาเรียบร้อยแล้ว 

ยาสมุนไพร รักษา สิว ตรีผลา หมออรรถวุฒิ เหมาะมากกับคนที่ต้องการรักษาสิวด้วยตัวเอง เพราะทานง่าย มีส่วนช่วยปรับปรุง ฟื้นฟู ระบบภายในร่างกาย ตับ ลำไส้ เลือดลม ระบบน้ำเหลือง ทำให้สิว กลับมาขึ้นซ้ำได้ยาก ที่สำคัญคือ และ สกัดจากสมุนไพร หลากหลายชนิด เช่น

• สารสกัดสมอทั้ง 5 ได้แก่ สมอไทย สมอพิเภก สมอเทศ สมอดีงู สมอทะเล
• มะขามป้อมสกัด
• ฝางสกัด
• ดอกคำฝอยสกัด
• ชะเอมเทศสกัด
• ขมิ้นอ้อยสกัด
• ขมิ้นชันสกัด ฯลฯ

โดยสารสกัด จากสมุนไพร รักษา สิว ทั้งหมดนี้ จะช่วยให้สิว และ สุขภาพดีขึ้นได้ เช่น

• ช่วยปรับปรุง ฟื้นฟู ระบบภายในร่างกาย ตับ ลำไส้ เลือดลม ระบบน้ำเหลือง ทำให้สิว กลับมาขึ้นซ้ำได้ยาก 
• ช่วยเคลียร์ของเสียสะสมในร่างกาย ทั้งตับ ไต ลำไส้ น้ำเหลืองเสีย เมือกมัน ตะกรันในลำไส้
• ช่วยให้สิวยุบ ผิวใส เด้ง เต่งตึง มีออร่า  
• ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น ช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น
• ช่วยลดรอยดำ รอยแดง ที่เกิดจากสิว รวมถึงรอยแผลเป็น ค่อย ๆ จางลง 
• ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย    
• ช่วยปรับสมดุลขับถ่าย โดยไม่ทำให้ท้องเสีย เป็นยาอายุวัฒนะ
• ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

หากมีข้อสงสัยใด ๆ เพิ่มเติม สามารถคอมเม้นท์สอบถามได้ เรามีเภสัชกร และ ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษา ทุกปัญหาสุขภาพ