รู้หรือไม่? สาเหตุเบาหวาน เกิดจากอะไร รีบเช็คสัญญาณเตือน ก่อนเรื้อรัง

รู้หรือไม่? สาเหตุเบาหวาน เกิดจากอะไร รีบเช็คสัญญาณเตือน ก่อนเรื้อรัง

แชร์ได้เลยค่ะ

เบาหวานเกิดจาก ความผิดปกติของอินซูลิน (Insulin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนในร่างกาย โดยปกติแล้วอินซูลิน มีหน้าที่นำน้ำตาลในเลือด ไปหล่อเลี้ยงสมอง กล้ามเนื้อ และอวัยวะต่างๆ แต่เมื่อไหร่ที่อินซูลินลดลง หรือ ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ก็จะทำให้ปริมาณน้ำตาลค้างอยู่ในกระแสเลือด ยิ่งค้างอยู่นานวันเข้า ก็เกิดการสะสม ทำให้ค่าน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งนี่คือสาเหตุเบาหวานนั่นเอง หากเป็นเบาหวานแล้ว จำเป็นต้องหาวิธีรักษาเบาหวาน เนื่องจากหากปล่อยไว้นาน จะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน เบาหวาน ส่งผลกระทบต่ออวัยวะทุกส่วนในร่างกาย

หาสาเหตุเบาหวานให้เจอ แล้วรีบรักษา เพราะหากปล่อยนาน อาจทำเบาหวานขึ้นตา ลุกลามทุกส่วนของร่างกาย

ตอบชัด! สาเหตุเบาหวาน เกิดจากอะไร

ตอบชัด! สาเหตุเบาหวาน เกิดจากอะไร
1. กรรมพันธุ์ 
2. เป็นโรคอ้วน ไม่ออกกำลังกาย
3. ผู้สูงวัย 
4. ตับอ่อนผิดปกติ 
5. รับประทานอาหารไขมันสูง รสจัด ดื่มสุรา สูบบุหรี่
6. ติดเชื้อไวรัส  
7. เกิดจากการทานยาบางชนิด
8. การตั้งครรภ์

อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า เบาหวานเกิดจาก ความผิดปกติของอินซูลิน จนทำให้น้ำตาลสะสมในกระแสเลือดสูง แต่รู้หรือไม่ว่า ก่อนที่อินซูลินจะผิดปกติ สาเหตุเบาหวาน เริ่มมาจากสิ่งเหล่านี้

1. สาเหตุเบาหวาน จากกรรมพันธุ์ : หากคุณมีบุคคลในครอบครัว โดยเฉพาะพ่อ แม่ พี่ น้อง ที่มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน คุณจะมีความเสี่ยง ต่อการเป็นโรคเบาหวานได้เช่นกัน แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะคุณสามารถป้องกันได้ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อดูค่าน้ำตาลในเลือด

2. เบาหวานเกิดจากการเป็นโรคอ้วน : โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย จะทำให้ไขมันสะสมในร่างกาย ร่างกายดื้ออินซูลิน ระบบเผาผลาญ ระบบจัดการน้ำตาลแย่ลง น้ำตาลสะสมในเลือด จนทำให้เกิดอาการเบาหวานได้

3. ผู้สูงวัย : เนื่องจากอายุที่มากขึ้น อาจส่งผลให้ฮอร์โมนอินซูลินลดลงได้

4. ตับอ่อนผิดปกติ : ตับอ่อนมีหน้าที่ในการผลิตอินซูลิน หากตับอ่อนมีปัญหา หรือ เป็นโรคเกี่ยวกับตับอ่อน ก็จะทำประสิทธิภาพ ในการหลั่งอินซูลินลดลง

5. รับประทานอาหาร : โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง รสจัด ชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นประจำ ซึ่งเป็นสาเหตุเบาหวานที่พบได้บ่อย

6. ติดเชื้อไวรัส : เช่น โรคหัดเยอรมัน ก็จะทำให้ตับอ่อนมีปัญหา ประสิทธิภาพในการหลั่งอินซูลิน จึงลดลง

7. สาเหตุเบาหวาน จากการรับยาบางชนิด : เช่น ยาสเตียรอยด์ ยาคุมกำเนิด ที่อาจทำให้น้ำตาลในเลือดมากขึ้น หรือ อาจทำให้ร่างกายดื้อต่อการหลั่งอินซูลิน

8. การตั้งครรภ์ : หญิงตั้งครรภ์บางท่าน อาจไม่ทราบว่าเบาหวาน สาเหตุมาจากการตั้งครรภ์ได้ ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่  2 – 3 ของการตั้งครรภ์ เนื่องจากร่างกาย มีการสร้างฮอร์โมนจากรก หลายชนิด ซึ่งมีผลต่อการยับยั้ง การทำงานของอินซูลิน จนทำให้เกิดเบาหวานได้ แต่อาการเบาหวานนี้ จะหายไปเองหลังคลอด

ใครบ้างเสี่ยง อาการเบาหวาน ได้ง่าย  

ใครบ้างเสี่ยง อาการเบาหวาน ได้ง่าย
อายุ 45 ปี ขึ้นไป
คนในครอบครัว เคยเป็นเบาหวาน
น้ำหนักเกิน 
ไม่ออกกำลังกาย
ชอบทานอาหารรสจัด ไขมันสูง 
ดื่มสุรา สูบบุหรี่ เป็นประจำ
กำลังตั้งครรภ์ 
เป็นโรคถุงน้ำในรังไข่  
ความดันโลหิตสูง 140/90 มิลลิเมตรปรอท
ระดับไตรกลีเซอไรด์ มากกว่า 250 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
ไขมันเอชดีแอล น้อยกว่า 35 มิลลิกรัม/เดซิลิตร  
ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด หลังงดอาหาร 8 ชม. แล้วอยู่ระหว่าง 100 – 125 มิลลิกรัม/เดซิลิตร 
ตรวจการตอบสนองของอินซูลิน แล้วอยู่ระหว่าง 140 - 199 มิลลิกรัม/เดซิลิตร

เมื่อทราบถึงสาเหตุเบาหวาน กันไปแล้ว ว่าเกิดจากอะไรบ้าง ลองมาเช็คกันว่า คุณใช่กลุ่มเสี่ยง ของคนที่อาจเป็นเบาหวาน หรือ ไม่

  • อายุ 45 ปี ขึ้นไป
  • มีประวัติคนในครอบครัว เคยเป็นโรคเบาหวาน
  • น้ำหนักเกินมาตรฐาน
  • ไม่ชอบออกกำลังกาย
  • ชอบรับประทานอาหารรสจัด
  • ชอบรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากไขมันอิ่มตัว ส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของอินซูลิน ทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทำงานได้ไม่เต็มที่
  • ดื่มสุรา หรือ สูบบุหรี่เป็นประจำ
  • กำลังตั้งครรภ์
  • เป็นโรคถุงน้ำในรังไข่  
  • มีภาวะความดันโลหิตสูง ตั้งแต่ 140/90 มิลลิเมตรปรอท
  • ระดับไตรกลีเซอไรด์ มากกว่า 250 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
  • ไขมันเอชดีแอล (HDL) น้อยกว่า 35 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร  
  • ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด หลังงดอาหาร 8 ชั่วโมง แล้วพบว่า ระดับน้ำตาลอยู่ระหว่าง 100 – 125 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ถือว่าเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน
  • ตรวจการตอบสนองของอินซูลิน ด้วยการดื่มน้ำผสมน้ำตาลกลูโคสละลาย 75 กรัม ไป 2 ชั่วโมง แล้วพบว่า ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ระหว่าง 140 – 199 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ถือว่าเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน

เช็ค 15 สัญญาณเตือน อาการเบาหวาน 

เช็ค 15 สัญญาณเตือน อาการเบาหวาน
1.	ปัสสาวะบ่อย 
2.	คอแห้ง กระหายน้ำบ่อย 
3.	หิวบ่อย 
4.	เหนื่อยง่าย 
5.	อ่อนเพลีย
6.	ปวดเมื่อตามร่างกาย
7.	ปากแห้ง 
8.	น้ำหนักลดผิดปกติ
9.	น้ำหนักขึ้นผิดปกติ 
10.	สายตาพร่ามัว 
11.	เป็นแผลแล้วหายช้ากว่าปกติ 
12.	ชาปลายมือ และ เท้า
13.	หย่อนสมรรถภาพทางเพศ 
14.	ผิวแห้ง คันตามผิวหนัง 
15.	อารมณ์แปรปรวน

โรคเบาหวาน ไม่ใช่โรคที่เกิดขึ้นกับผู้สูงวัยเท่านั้น เพราะปัจจุบันยังพบในเด็ก และ วัยรุ่นได้ด้วย เพราะสาเหตุเบาหวาน เกิดขึ้นได้หลายอย่าง ตามที่เรากล่าวไว้ข้างต้น หากใครไม่เคยตรวจสุขภาพ เราแนะนำให้ลองสังเกตอาการเบาหวาน เบื้องต้น ดังต่อไปนี้

  1. อาการเบาหวานเบื้องต้น ที่สังเกตได้ชัด คือ ปัสสาวะบ่อย เพราะร่างกายจะขับน้ำตาลออก ทางการปัสสาวะ
  2. คอแห้ง กระหายน้ำบ่อย เนื่องจากปัสสาวะบ่อยนั่นเอง
  3. รู้สึกหิวบ่อย เพราะอินซูลินไม่สามารถนำน้ำตาลกลูโคส ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ให้เกิดพลังงานในร่างกายได้
  4. รู้สึกเหนื่อยง่าย เพราะร่างกายดึงพลังงานจากไขมัน และ กล้ามเนื้อไปใช้
  5. รู้สึกอ่อนเพลีย
  6. ปวดเมื่อยตามร่างกาย
  7. ปากแห้ง
  8. น้ำหนักลดผิดปกติ
  9. น้ำหนักขึ้นผิดปกติ
  10. สายตาพร่ามัว เพราะน้ำตาลไปสะสมอยู่ในดวงตา
  11. เป็นแผลแล้วหายช้ากว่าปกติ เนื่องจากเม็ดเลือดขาว ที่ช่วยกำจัดเชื้อโรคลดลง
  12. รู้สึกชาที่ปลายมือ และ เท้า
  13. หย่อนสมรรถภาพทางเพศ
  14. ผิวแห้ง คันตามผิวหนัง
  15. อารมณ์แปรปรวน

ทั้ง 15 ข้อนี้ เป็นสัญญาณเตือนอาการเบาหวาน เบื้องต้น โดยคุณไม่จำเป็นต้องมีอาการครบทุกข้อ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจน้ำตาลในเลือด หรือ ใครอยากรักษาเบาหวานด้วยตัวเอง ก็อาจจะปรึกษาเภสัชกร เพื่อรับประทานยาสมุนไพรรักษาเบาหวานก็ได้

อย่าปล่อยเบาหวานเรื้อรัง เสี่ยงโรคแทรกซ้อน เบาหวานได้

อย่าปล่อยเบาหวานเรื้อรัง เสี่ยงโรคแทรกซ้อน เบาหวานได้
1. โรคจอประสาทตาเสื่อม หรือ เบาหวานขึ้นตา
2. โรคไตวาย หรือ เบาหวานลงไต
3. โรคหลอดเลือดตีบ
4. อาการเบาหวานที่เท้า
5. โรคเหงือกอักเสบ

หากพบแล้วว่า ตัวเองมีอาการเบาหวาน ก็ควรรีบหาวิธีรักษาเบาหวาน ไม่ว่าจะด้วยการกินทานยาแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน ทานสมุนไพร รักษา เบาหวาน ฯลฯ เพราะหากปล่อยให้เบาหวานเรื้อรัง จะรักษายากมาก และ เสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อน เบาหวานได้ด้วย เช่น

1. โรคจอประสาทตาเสื่อม หรือ เบาหวานขึ้นตา : เป็นโรคแทรกซ้อน เบาหวานที่พบได้บ่อย เกิดจากน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้เส้นเลือดฝอยที่ไปหล่อเลี้ยงจอตา โป่งพอง เกิดเป็นเลือด และ น้ำเหลืองซึมออกมา จนกระจายทั่วจอประสาทตา เป็นแล้วจะรู้สึกตาพร่ามัว มองเห็นจุด หรือ เส้นดำ ลอยไปลอยมา หากไม่รีบรักษา ท้ายสุดจะกลายเป็นโรคต้อหิน และสูญเสียการมองเห็นได้

2. ไตวาย หรือ เบาหวานลงไต : เนื่องจากปริมาณน้ำตาลในเลือดสูง จึงทำให้ไตทำงานหนัก ประสิทธิภาพของไต ในการกรองของเสียจึงลดลง มีโปรตีนรั่วออกจากปัสสาวะ ท้ายสุดเนื้อไตจะถูกทำลาย กลายเป็นไตวายได้

3. โรคหลอดเลือดตีบ : เนื่องจากปริมาณน้ำตาลในเลือดสูง หลอดเลือดจึงเกิดการอักเสบ ตีบ และ แคบลง อีกทั้งปริมาณน้ำตาลที่อยู่ในเลือด ทำให้เลือดจับตัวเป็นก้อน แล้วไปเกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือด ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตไม่ดี เลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงอวัยวะภายในร่างกายได้ดีพอ

4. อาการเบาหวานที่เท้า : เป็นแล้วจะรู้สึกชาปลายนิ้วเท้า หากไม่รีบรักษา จะลุกลามขึ้นไปที่เท้าทั้งสองข้าง ความรู้สึกที่เท้าจะลดลง จนถึงขั้นไม่รู้สึกเลย

5. ปัญหาภายในช่องปากจากสาเหตุเบาหวาน : ความผิดปกติของการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ก็ส่งผลต่อเนื้อเยื่อรอบฟัน ที่อาจอักเสบได้ เช่น โรคเหงือกอักเสบ ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียฟันในอนาคต

รักษาเบาหวานด้วยตัวเองได้ จากยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน

คุณรู้หรือไม่? นอกจากการควบคุมอาหาร ตามแพทย์สั่งแล้ว เราสามารถรักษาเบาหวานด้วยตัวเองได้ ด้วยการรับประทานยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน ซึ่งเป็นวิธีรักษาเบาหวาน ที่ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ และกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน “ตรีผลา FORTE” จากศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ ที่ผ่านการตรวจวิเคราะห์ความบริสุทธิ์ และ ปลอดภัยจาก อ.ย. ถึงประสิทธิภาพในการรักษาเบาหวานได้จริง จนมีผู้ซื้อซ้ำ และ บอกต่อมากที่สุด ยาวนานกว่า 30 ปี

ยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน ตรีผลา FORTE รักษาลงลึก ถึงสาเหตุเบาหวาน เหมาะกับผู้ที่เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นแผลเบาหวาน

โดยยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน “ตรีผลา FORTE” เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ เป็นสูตรตำรับลงตัว สกัดบริสุทธิ์จากสมุนไพร รักษา เบาหวาน มากถึง 22 ชนิด เช่น

  • สารสกัดสมอทั้ง 5 ได้แก่ สมอไทย สมอภิเภก สมอเทศ สมอดีงู สมอทะเล
  • สารสกัดดอกคำฝอย
  • สารสกัดดีปลี
  • สารสกัดขิงแห้ง
  • สารสกัดเจตมูลเพลิง
  • สารสกัดทองพันชั่งดอกขาว และ ทองพันช่างดอกเหลือง
  • สารสกัดกำแพงเจ็ดชั้น
  • สารสกัดเถาวัลย์เปรียง

ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นเบาหวาน สาเหตุใด วิธีรักษาเบาหวาน ด้วยการทานตรีผลา FORTE จะช่วยทำให้อาการเบาหวาน เบื้องต้น หรือ เรื้อรัง ดีขึ้นได้ เพราะส่วนผสมเข้มข้น ของสารสกัดสมุนไพร รักษา เบาหวาน มีช่วยในเรื่องต่างๆ อาทิ

  1. แก้ปัญหาตับอ่อน ที่ทำหน้าที่ในการหลั่งอินซูลิน ให้กลับมาทำงานดีขึ้น
  2. ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์
  3. ล้างไขมันเกาะตับ ไขมันพอกตับ ไขมันในเลือด ไขมันอุดตันเส้นเลือด
  4. ล้างเมือกมัน ตะกรันในลำไส้ ล้างพิษตับ ล้างน้ำเหลืองเสีย
  5. ช่วยรักษาแผลจากโรคแทรกซ้อน เบาหวาน ให้หายเร็วขึ้น
  6. ปรับสมดุลขับถ่าย สมดุลความดัน  
  7. ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย ลดเสี่ยงอาการเบาหวาน
  8. บำรุงปลายประสาท แก้อาการชาปลายมือ และ เท้า
  9. ช่วยป้องกันเบาหวานลงไต หรือ ไตวาย ได้เป็นอย่างดี
  10. บำรุงสายตา ป้องกันเบาหวานขึ้นตา
  11. ไม่ต้องมีอาการเบาหวาน ก็ทานได้
  12. สามารถรับประทานคู่กับยารักษาเบาหวาน แพทย์แผนปัจจุบันได้

โดยยา ตรีผลา FORTE เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นแผลเบาหวาน เบาหวานขึ้นตา รวมไปถึงผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ลดหน้าท้อง ลดไขมันส่วนเกิน เพื่อป้องกันไขมันสะสม จนทำให้เป็นเบาหวานขึ้นมาได้ ที่สำคัญคือ สามารถทานร่วมกับยาแผนปัจจุบันได้ แล้วไปตรวจซ้ำทุกๆ 2 เดือน จนกว่าจะเป็นปกติได้เลย จะพบว่าค่าแลปดีขึ้น ซึ่งผลดีที่ตามมาคือ ผู้ป่วยเบาวานจะได้ลดยาเคมีลงเรื่อยๆ จนอาการเบาหวานสามารถดีขึ้นได้เอง

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

หากมีข้อสงสัยใด ๆ เพิ่มเติม สามารถคอมเมนต์สอบถามได้ เรามีเภสัชกร และ ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพ


แชร์ได้เลยค่ะ

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top