ภัยร้ายต้องระวัง! เบาหวานขึ้นตา รีบรักษา ก่อนตาบอด

เพราะดวงตา คือ หน้าต่างของหัวใจ แต่คงจะไม่ดีแน่ หากโรคเบาหวาน จะทำให้คุณมองเห็นไม่ชัด หรือ มองอะไรไม่เห็นเลย โดยเราขออธิบายให้เข้าใจก่อนว่า โรคเบาหวาน (Diabetes) เกิดจากการมีน้ำตาลในเลือดสูง กว่าปกติ เพราะขาดฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) หรือ อาจเกิดจากร่างกายดื้อต่ออินซูลินก็เป็นได้ หากปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูง สะสมอยู่ในร่างกายนาน ไม่หาวิธีรักษาเบาหวาน จากโรคเบาหวานธรรมดา จะเกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นมาได้อีก เช่น โรคไตเสื่อม ไตวาย ความดันโลหิตสูง ชาตามมือ และ เท้า โรคหลอดเลือดหัวใจ ฯลฯ แต่โรคแทรกซ้อนเบาหวาน ที่พบบ่อยมาก นั่นก็คือ “เบาหวานขึ้นตา” ที่อาจนำไปสู่โรคต้อหิน จนทำให้มองไม่เห็นเลยก็เป็นได้ ดังนั้นต้องหมั่นตรวจโรคเบาหวานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันอาการเบาหวานขึ้นตา นั่นเอง

เบาหวานขึ้นตา เกิดจากอะไร

ต้องกล่าวก่อนว่า โรคเบาหวาน มีความเกี่ยวข้องกับดวงตา เพราะหากเราปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูง สะสมอยู่เป็นเวลานาน น้ำตาลในเลือด จะไปเกาะตามผนังหลอดเลือด หลอดเลือดฝอยที่ตา ก็จะเสื่อมเหมือนกัน ดังนั้น “เบาหวานขึ้นตา” (Diabetic Retinopathy) ก็เป็นหนึ่งโรคแทรกซ้อนของเบาหวาน โดยสาเหตุเบาหวานขึ้นตา เกิดจากการเป็นเบาหวาน มานานหลายปี จนทำให้เส้นเลือดในจอประสาทตาเสื่อม เกิดการโป่งพอง แตก จนเป็นจุดเลือดเล็กๆ กระจายทั่วดวงตา มีน้ำ และ ไขมันไหลซึมออกมา จนจอประสาทตาบวม ตาพร่ามัว หากปล่อยไว้นาน เส้นเลือดจะอุดตัน จอประสาทตาจะขาดเลือด เกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่ขึ้นมา แต่เส้นเลือดใหม่จะไม่แข็งแรง เปราะบาง ฉีกขาดง่าย จนทำให้มีเลือดออกในจอประสาทตา เกิดเป็นพังผืด ดึงจอประสาทตาให้หลุด ลอก ออกมาได้ ท้ายสุดอาจถึงขั้นตาบอดได้เลยทีเดียว

สังเกตง่าย เบาหวานขึ้นตา อาการเป็นอย่างไร

หากถามว่าเบาหวานขึ้นตา อาการเป็นอย่างไร สามารถบอกได้เลยว่า สังเกตไม่ยาก เพราะนอกจากอาการเบาหวานเริ่มต้น เช่น หิวบ่อย คอแห้ง ปากแห้ง ปัสสาวะบ่อย ปวดเมื่อย เหนื่อยง่าย เป็นแผลแล้วหายช้ากว่าปกติแล้ว เบาหวานขึ้นตา อาการมีดังต่อไปนี้

1. มองเห็นจุด หรือ เงา คล้ายหยากไย่ ลอยไปมาในดวงตา
2. มองเห็นภาพบิดเบี้ยว
3. สายตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด
4. แยกสีได้ยากขึ้น
5. เห็นเป็นภาพมืดบ่อยครั้ง 

เบาหวานขึ้นตา อาการในช่วงแรก จะไม่ค่อยรุนแรงมากนัก จนผู้ป่วยเบาหวาน อาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าเบาหวานขึ้นตาแล้ว ดังนั้นหากมีอาการเบาหวานเริ่มต้น เกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อไหร่ ก็ให้หมั่นตรวจโรคเบาหวาน ค่าน้ำตาลในเลือด และสังเกตประสิทธิภาพการมองเห็นของตัวเอง อย่างสม่ำเสมอด้วย เพื่อป้องกันอาการเบาหวานขึ้นตา เกิดขึ้นกับตัวเอง

ดูแลตัวเองอย่างไร เมื่อเบาหวานขึ้นตา

หากตรวจพบว่ามีน้ำตาลในเลือดสูง เป็นโรคเบาหวาน หรือ มีอาการเบาหวานเริ่มต้น เกิดขึ้นกับตัวเองแล้ว ก็ควรตรวจสายตากับจักษุแพทย์ด้วย เพราะอาการเบาหวานขึ้นตาในระยะแรก จะไม่แสดงอาการ จึงทำให้ผู้ป่วยเบาหวานชะล่าใจ แต่หากตรวจโรคเบาหวาน แล้วพบว่า มีอาการเบาหวานขึ้นตาแล้ว ก็ให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำ ดังต่อไปนี้

1. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
2. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ  
3. ควบคุมความดันโลหิต
4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ให้ค่าดัชนีมวลร่างกาย อยู่ระหว่าง 18.5 – 24.9
5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักใบเขียว และ ผัก ผลไม้ ที่มีส่วนช่วยบำรุงสายตา
6. งดอาหารที่มีไขมันสูง รสจัด ของหมัก ของดอง
7. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
8. งดสูบบุหรี่
9. รับประทานยาตามแพทย์สั่ง
10. รับประทานสมุนไพรลดน้ำตาลในเลือด หรือ ยาสมุนไพร แก้เบาหวาน
11. ตรวจโรคเบาหวาน และ ตรวจสายตาซ้ำทุก 3 – 6 เดือน

เบาหวานขึ้นตา รักษาไวเท่าไหร่ ยิ่งกลับมาเห็นได้ชัด

เบาหวานขึ้นตา รักษาได้ หากตรวจพบเร็ว ซึ่งวิธีรักษา มีหลายวิธีด้วยกัน ขึ้นอยู่กับระดังความรุนแรงของโรค ดังต่อไปนี้

1. เบาหวานขึ้นตา รักษาด้วยการเลเซอร์ : จุดประสงค์หลักของการเลเซอร์ คือ ลดอาการบวมของจอประสาทตา ป้องกันจอตาขาดเลือด รักษาหลอดเลือด ที่ผิดปกติ ให้ฝ่อลง แม้จะไม่ได้ช่วยทำให้การมองเห็นดีขึ้น แต่ก็ชะลอไม่ให้ตาบอดได้
2. เบาหวานขึ้นตา รักษาด้วยการฉีดยา : เป็นการฉีดยาเข้าลูกตา เหมาะสำหรับผู้ที่จอตาบวม เพราะตัวยาที่ฉีดเข้าไป จะไปช่วยลดการบวมน้ำ หรือ เลือด ที่บริเวณจุดรับภาพ ลดการรั่วของหลอดเลือด ป้องกันไม่ให้หลอดเลือดที่เกิดขึ้นใหม่แตก แต่ต้องฉีดหลายรอบ จนกว่าจะดีขึ้น ซึ่งวิธีฉีดยานี้ค่อนข้างเห็นผลดี แต่ต้องใช้วิธีเลเซอร์ร่วมด้วย
3. เบาหวานขึ้นตา รักษาด้วยการผ่าตัด : เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการเบาหวานขึ้นตาขั้นรุนแรง มีเลือดออกในตา จอตาลอก มีพังผืด โดยการผ่าตัดจะเป็นการนำจอตาที่ลอกออกไปแล้ว ให้กลับเข้าที่

ยาสมุนไพร แก้เบาหวาน ตัวช่วยสำคัญ ดูแลเบาหวานขึ้นตา

เบาหวานขึ้นตา เป็นโรคแทรกซ้อนเบาหวาน ที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุด ที่ผู้ป่วยเบาหวานควรทำ นั่นก็คือ การป้องกันไม่ให้เบาหวานขึ้นตา ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะหากปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูง สะสมนาน จนมีอาการเบาหวานขึ้นตา การดูแลรักษาจะยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ดังนั้นนอกจากการควบคุมระดับน้ำตาล และ ปฏิบัติตนตามที่เราแนะนำไปแล้ว หนึ่งในวิธีป้องกัน และ รักษาเบาหวานขึ้นตาได้ดี ก็คือ การทานยาสมุนไพร แก้เบาหวาน “ตรีผลา FORTE” จากศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ นั่นเอง

เหตุผลที่เราแนะนำ ยาสมุนไพร แก้เบาหวาน“ตรีผลา FORTE” จากศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ เพราะเป็นหนึ่งในยาสมุนไพร แก้เบาหวาน ที่ผ่านการตรวจวิเคราะห์ความบริสุทธิ์ และ ปลอดภัยจาก อ.ย. ถึงประสิทธิภาพในการป้องกันเบาหวานขึ้นตาได้ ปลอดภัย จนได้รับความไว้วางใจ การันตีด้วยจำนวนผู้ซื้อซ้ำ และ บอกต่อมากที่สุด ยาวนานกว่า 30 ปี โดยยาสมุนไพร แก้เบาหวาน “ตรีผลา FORTE” เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ของศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ เป็นสูตรตำรับลงตัว สกัดจากสมุนไพรลดน้ำตาลในเลือด มากถึง 22 ชนิด ผู้ป่วยเบาหวาน จึงไม่ต้องเสี่ยงกับสารเคมีตกค้างในร่างกายอีกด้วย โดยสมุนไพรลดน้ำตาลในเลือด ที่ถูกนำมาสกัด เช่น

• สารสกัดสมอทั้ง 5 ได้แก่ สมอไทย สมอภิเภก สมอเทศ สมอดีงู สมอทะเล
• สารสกัดดอกคำฝอย
• สารสกัดดีปลี
• สารสกัดขิงแห้ง
• สารสกัดเจตมูลเพลิง
• สารสกัดทองพันชั่งดอกขาว และ ทองพันช่างดอกเหลือง
• สารสกัดกำแพงเจ็ดชั้น
• สารสกัดเถาวัลย์เปรียง

ที่สำคัญผู้ป่วยเบาหวานขึ้นตา สามารถทานตรีผลา FORTE ควบคู่ไปกับยาแผนปัจจุบัน ที่แพทย์สั่งได้ด้วย เพราะตรีผลา FORTE  มีประสิทธิภาพในการช่วยเบาหวานขึ้นตา รักษา อาการเบาหวานเริ่มต้น เรื้อรัง และ บำรุงสุขภาพ แม้ผู้ที่ไม่เป็นเบาหวานก็ทานได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เบาหวานเกิดขึ้นกับตัวเอง เช่น

1. ช่วยลดน้ำหนัก ลดหน้าท้อง ลดไขมันส่วนเกิน เพื่อป้องกันการเกิดไขมันสะสม ที่เป็นสาเหตุเบาหวานขึ้นตา อาการเบาหวานเริ่มต้น
2. ช่วยดูแลตับอ่อน ที่ทำหน้าที่ในการหลั่งอินซูลิน ให้กลับมาทำงานดีขึ้น
3. ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ ป้องกันอาการเบาหวานเริ่มต้น
4. ล้างไขมันเกาะตับ ไขมันพอกตับ ไขมันในเลือด ไขมันอุดตันเส้นเลือด
5. ล้างเมือกมัน ตะกรันในลำไส้ ล้างพิษตับ ล้างน้ำเหลืองเสีย ทำให้ระบบภายในดี สุขภาพแข็งแรง
6. ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
7. ช่วยรักษาแผลจากเบาหวาน ให้หายเร็วขึ้น
8. ปรับสมดุลความดัน  
9. ช่วยบำรุงปลายประสาท แก้อาการชาปลายมือ และ เท้า
10. ช่วยป้องกันเบาหวานลงไต หรือ ไตวาย ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ หากใครกำลังทานยาแผนปัจจุบันอยู่ ก็สามารถทานกันได้ แล้วไปตรวจซ้ำทุกๆ 2 เดือน จนกว่าจะเป็นปกติได้เลย ค่าแลปดีขึ้น ซึ่งจะได้ลดยาเคมีลงเรื่อยๆ จนสามารถดีได้เองในที่สุด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

หากมีข้อสงสัยใด ๆ เพิ่มเติม สามารถคอมเมนต์สอบถามได้ เรามีเภสัชกร และ ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพ