“สิว หัว ช้าง” (Acne Conglobata) สิวขนาดใหญ่ ที่ขึ้นชื่อว่ารุนแรงที่สุด เจ็บที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นสิว อักเสบ ที่ด้านในมีหนอง และ เลือด จำนวนมาก ทำให้เกิดการบวม แดง ซึ่งหากเกิดการอักเสบอย่างหนัก จะมีซีสต์เทียมภายในด้วย ซึ่งจำเป็นต้องรีบรักษา สิว หัว ช้าง ให้หายสนิท เพราะหากปล่อยไว้นาน สิว หัว ช้าง จะอักเสบอย่างรุนแรง ทำให้ผิวหนังชั้นลึกเป็นแผล เกิดเป็นรอยแดง รอยดำ และหลุมสิว ตามมาได้ แล้วเราสามารถบีบสิวหัวช้างได้ไหม? วิธีรักษา สิว หัว ช้าง ต้องทำอย่างไร จำเป็นต้องพบแพทย์ หรือ รักษา สิว หัว ช้าง ด้วยตัวเองก็ได้ วันนี้เรามีคำตอบมาบอกกัน
เช็คให้ชัวร์ ก่อนบีบสิวหัวช้าง เป็นแบบนี้ ใช่หรือไม่?
ก่อนบีบสิวหัวช้าง เรามารู้จักลักษณะ อาการ ของสิว หัว ช้าง กันให้ชัวร์ก่อน เพื่อการรักษา ที่ถูกวิธี
- สิว หัว ช้าง มีขนาดใหญ่ บวม แดง
- หากเป็น สิว หัว ช้าง ช่วงแรก จะยังไม่มีหัวสิว หากนานไป จะเริ่มมีหัวสิวให้เห็น
- จับแล้วรู้สึกเจ็บ ปวด ระบม
- จับแล้วเป็นไตแข็ง แต่บางรายจับไปแล้ว จะรู้สึกว่า สิว หัว ช้าง มีความนิ่ม เนื่องจากมีหนองอยู่ภายใน และสิวเริ่มสุก
สิว หัว ช้าง เกิด จากอะไร?
ก่อนบีบสิวหัวช้าง เราอยากให้คุณ ทราบก่อนว่า สิว หัว ช้าง เกิด จากอะไร ซึ่งสิว หัว ช้าง เกิด จาก การติดเชื้อ หรือ การอักเสบใต้ผิวหนัง ซึ่งมีปัจจัยมาจาก การมีแบคทีเรีย C.acne จำนวนมากเกินไป ต่อมไขมัน ผลิตน้ำมันมากเกินไป หรือ เซลล์ในรูขุมขน เพิ่มจำนวนมากเกินไป จนเข้าไปอุดตันในรูขุมขน ทำให้ติดเชื้อ หรือ เกิดการอักเสบ และ กลายเป็น สิว หัว ช้าง ขึ้นมานั่นเอง ซึ่งอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้
- แบคทีเรีย C.acne มีจำนวนมากเกินไป
โดยปกติแล้ว แบคทีเรีย C.acne (Cutibacterium acnes) จะอยู่บนผิวหน้า และ รูขุมขน ของเราอยู่แล้ว แต่หากมีจำนวนมากเกินไป จะทำให้ผิวหนังอักเสบ กลายเป็นสิวอุดตันขึ้นมา หากไม่รักษาสิวอุดตัน ปล่อยทิ้งไว้ ก็จะทำให้ผนังรูขุมขนแตก ผิวหนังชั้นใน เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ ตามมา กลายเป็น สิว หัว ช้างนั่นเอง
- ต่อมไขมัน ผลิตน้ำมันมากเกินไป
การที่ต่อมไขมัน ผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป จะทำให้แบคทีเรีย เข้าไปอาศัยในผิว หรือ รูขุมขนง่ายขึ้น ซึ่งทำให้เกิด สิว หัว ช้าง ขึ้นมาได้
- เซลล์ในรูขุมขน เพิ่มจำนวนมากเกินไป
โดยปกติแล้ว เซลล์ในรูขุมขนที่ตายแล้ว จะหลุดออกมาตามปกติ เมื่อถึงเวลาของมันเอง แต่หากเซลล์ในรูขุมขน เพิ่มจำนวนมากเกินไป ก็จะเกิดการอุดตัน ที่รูขุมขน กลายเป็นสิวอุดตัน ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ ทับถมกันกลายเป็นสิว หัว ช้าง ได้
นอกจากนี้ สิว หัว ช้าง เกิด จากการเกี่ยวข้อง กับสาเหตุอื่น ๆ ได้อีก ไม่ว่าจะเป็น
- ล้างหน้าไม่สะอาด
- กรรมพันธุ์ หากมีบุคคลในครอบครัว เป็นสิวง่าย ก็มีแนวโน้ม ที่จะเป็น สิว หัว ช้าง ได้ง่ายกว่าคนอื่น ๆ
- ฮอร์โมนแปรปรวน เช่น ฮอร์โมนในวัยรุ่น การตั้งครรภ์
- ป่วยเป็นโรคบางอย่าง เช่น มีถุงน้ำรังไข่หลายใบ
- เกิดจากการทานยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด สเตียรอยด์
- ความเครียด
- การแพ้อาหารบางชนิด เช่น นม เบเกอรี่ ชีส เนย
- ทานของมัน ของทอด มากเกินไป
- สภาพอากาศ เช่น อากาศร้อน ที่ทำให้เกิดสิวง่ายกว่าปกติ
- แพ้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอาง แชมพู ยาสีฟัน
- การสูบบุหรี่
- ใบหน้าถูกเสียดสี เช่น ใส่หน้ากากอนามัย ใส่หมวกกันน็อค
บีบสิวหัวช้าง ได้ไหม?
มาถึงสิ่งที่หลายคนอยากรู้ว่า “เป็น สิว หัว ช้าง แล้วสามารถบีบสิวหัวช้าง เอาหนอง และ เลือด ออกเองได้ไหม?” คำตอบก็คือ “ไม่ได้ เราห้ามบีบสิวหัวช้าง ด้วยตัวเอง เด็ดขาด!” เพราะภายในสิว หัว ช้าง ไม่ว่าจะมีหัวสิว หรือ ไม่มีหัวสิว จะมีหนองจำนวนมาก อยู่ภายใน หากบีบสิวหัวช้าง ไม่ถูกวิธี แบคทีเรียในรูขุมขน จะเพิ่มมากขึ้น เกิดการอักเสบอย่างหนัก เสี่ยงต่อการติดเชื้อลึกในชั้นผิว กลายเป็นก้อนซีสต์ภายในสิว หัว ช้าง ซึ่งยากต่อการรักษา มากขึ้นไปอีก และ จะเกิดหลุมสิว ลึกบนใบหน้าได้
แต่หากสิวหัวช้างสุก จนเห็นหัวสิวชัดเจน ก็สามารถบีบออกได้ แต่ต้องให้แพทย์ผิวหนัง ผู้เชี่ยวชาญ เป็นคนบีบสิวหัวช้างออกให้เท่านั้น เพราะต้องทำอย่างถูกวิธี เบามือ เอาหนองออกด้วยการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่สะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ มีการใส่ถุงมือ และต้องทำแผล หลังจากบีบสิวหัวช้างออกแล้วด้วย
ป้องกัน และ รักษา สิว หัว ช้าง ไม่ยากอย่างที่คิด
เมื่อทราบแล้วว่า ควรหรือไม่ควรบีบสิวหัวช้าง คราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนของการป้องกัน และ รักษา สิว หัว ช้าง กันบ้าง โดยเราขอแบ่งออกเป็นวิธีรักษา สิว หัว ช้าง ด้วยการใช้ยา และ การรักษา สิว หัว ช้าง ด้วยการไม่ใช้ยา ดังนี้
การรักษา สิว หัว ช้าง ด้วยการใช้ยา เช่น
- กลุ่มยา Benzoyl Peroxide : ช่วยลดการอุดตันของสิว สิวอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ในสิว หัว ช้าง ช่วยผลัดเซลล์ผิว แต่หากใช้ไปนาน ๆ ผิวจะแห้ง และ แสบ
- กลุ่มยาเรตินอยด์ (Retinoids) : ช่วยในการรักษาอาการสิวทั่วไป ลดการขับน้ำมันทางผิว ลดการอุดตันของสิว และ การอักเสบของสิว มักใช้คู่กับ กลุ่มยา Benzoyl Peroxide ทั้งนี้ต้องใช้ในปริมาณน้อย ไม่สามารถใช้ได้กับสตรีมีครรภ์
- ยาปฏิชีวนะ : มีทั้งชนิดทา และ รับประทาน ซึ่งช่วยลดเชื้อแบคทีเรีย และ สิวอักเสบ สิว หัว ช้าง แต่หากใช้ไปนาน ๆ จะทำให้เกิดอาการดื้อยาได้
- ยาสมุนไพร รักษาสิว : มีทั้งชนิดทา และ รับประทาน มีทั้งสกัดจากสมุนไพร รักษาสิว 100% และ มีส่วนผสมของเคมีภัณฑ์ ช่วยในการรักษาสิว และ ป้องกันการเกิดสิวใหม่ได้ ทั้งนี้อาจเห็นผลช้ากว่ายาเคมี แต่หากเลือกยาสมุนไพร รักษาสิว ที่สกัดจากสมุนไพร 100% ก็จะไม่เสี่ยงต่อสารเคมีตกค้างในร่างกาย และ ใบหน้า ซึ่งดีต่อผิวหน้าระยะยาว หน้าไม่ติดสาร ไม่ดื้อยาภายหลัง
การรักษา สิว หัว ช้าง ด้วยการไม่ใช้ยา เช่น
- ล้างหน้าให้สะอาด เพื่อป้องกันสิว อุด ตัน สิว อักเสบ ที่นำไปสู่การเป็น สิว หัว ช้าง ขึ้นมาได้ ซึ่งควรล้างเพียงวันละ 1 – 2 ครั้งก็พอ คือเช้า และ ก่อนเข้านอน เพราะการล้างหน้าบ่อย จะทำให้ผิวหน้าแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ต่อมไขมันใต้รูขุมขน จะผลิตน้ำมัน ออกมามากเกินไป ทำให้หน้ามัน และเกิดสิว หัว ช้าง ขึ้นได้ ยกเว้นว่าออกกำลังกายมา ก็ควรล้างหน้าหลังออกกำลังกายเสร็จแล้วด้วย อย่าหมักหมมให้เหงื่ออยู่บนใบหน้านาน
- ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า และ บำรุงผิวหน้า ที่อ่อนโยนต่อสภาพผิว ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม น้ำมัน Mineral Oil (น้ำมันที่เหลือจากกระบวนการ ปิโตเลียม ส่งผลอุดตันผิวสูง) SLS พาราเบน สีสังเคราะห์ สเตียรอยด์ และ สารต้องห้ามต่าง ๆ
- สระผมเป็นประจำ และ รวบผม เพื่อไม่ให้เส้นผม สัมผัสกับใบหน้า
- เลือกใช้แชมพู ที่ปราศจากซิลิโคน พาราเบน น้ำมัน และ สารเคมีที่ก่อให้เกิดสิว
- ไม่ขัด หรือ ถูหน้าแรง เพื่อป้องกันสิว หัว ช้าง อักเสบ
- ไม่เอามือสัมผัสใบหน้า หรือ จับสิว หัว ช้าง เพราะมือของเราเจอสิ่งสกปรกในแต่ละวันมากมาย จะทำให้สิว หัว ช้าง อักเสบมากขึ้นได้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวคงความชุ่มชื้น
- ซักเครื่องนอนต่าง ๆ ให้สะอาด และ ควรซักทุกสัปดาห์ เพื่อไม่ให้ไรฝุ่น คราบน้ำลาย แบคทีเรีย สะสมอยู่ภายใน
- หลีกเลี่ยงแสงแดด ฝุ่น ควัน มลภาวะ เพราะมีส่วนทำให้ใบหน้า ผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้หน้ามัน สิ่งสกปรกเกาะบนใบหน้า จนทำให้สิว หัว ช้าง อักเสบมากขึ้น
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟู และ สิว หัว ช้าง ยุบไวขึ้น
- งดการแต่งหน้าไปก่อน จนกว่าสิว หัว ช้าง จะหายดี เพื่อป้องกันเครื่องสำอาง อุดตันในรูขุมขน และ ทำให้สิว หัว ช้าง อักเสบ
- ทำความสะอาด อุปกรณ์แต่งหน้า สัปดาห์ละครั้ง เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสม ของเชื้อแบคทีเรีย
- งดสูบบุหรี่
เผลอบีบสิวหัวช้างไป ให้ยาสมุนไพร รักษาสิว สมานแผลภายในได้
หากคุณเพิ่งรู้ว่า ห้ามบีบสิวหัวช้าง แต่ก็เผลอบีบไปแล้ว เอาหนองออกไม่หมด เกิดการอักเสบอยู่ หรือ ยังไม่ได้บีบ แต่สิวกำลังอักเสบพอดี แนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อเอาหนองที่อยู่ในสิว หัว ช้าง ออกให้หมด พร้อมกับทำแผลให้เรียบร้อย หรือ ใครเคยเป็น สิว หัว ช้าง มาแล้ว เอาหนองออกไปแล้ว แต่ดันเกิดหลุมสิว เกิดรอยแดง รอยดำ ทิ้งไว้บนใบหน้า เราแนะนำให้ใช้ยาสมุนไพร รักษาสิว ชนิดรับประทาน สมานแผลภายใน ลดรอยแดง รอยดำ
เหตุผลที่เราแนะนำให้ทาน ยาสมุนไพร รักษาสิว ก็เพราะว่า ยาสมุนไพร รักษาสิว มีคุณสมบัติ ในการฟื้นฟูระบบภายในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ต่อมไขมัน ตับ ลำไส้ เลือดลม ระบบน้ำเหลือง ฯลฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดสิว หัว ช้าง โดยยาสมุนไพร รักษาสิว จะทำให้ระบบภายใน มีความสมดุล ลดการอักเสบ ช่วยล้างสารพิษ หนอง ของเสียตกค้างในร่างกาย ให้หมดไป ส่งผลดีให้ผิวพรรณภายนอก กระจ่างใส รอยแดง รอยดำจากสิว จางลง แผลหลุมสิวถูกสมานตามธรรมชาติ เพราะเป็นการเติมเต็มสารอาหารดี ๆ เข้าสู่ร่างกายจากการทานยาสมุนไพร แต่เราแนะนำให้ทานยาสมุนไพร รักษาสิว ที่สกัดจากสมุนไพร 100% เพราะจะได้รับสารอาหารที่ดีแบบเต็ม ๆ ไม่ต้องเสี่ยง กบสารเคมีตกค้างในร่างกาย ไม่เสี่ยงกับการดื้อยาด้วย
“ตรีผลา” ยาสมุนไพร รักษาสิว จากศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ เป็นยาสมุนไพร รักษาสิว ที่ได้รับความนิยม จนเกิดการซื้อซ้ำ และ บอกต่อยาวนานกว่า 30 ปี เพราะตรีผลา หมออรรถวุฒิ เป็นสูตรตำรับเฉพาะ ลิขสิทธิ์หมอออรรถวุฒิ สกัดจากสมุนไพร รักษา สิว ออแกนิค 100% ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “ยา” การันตีถึงประสิทธิภาพ ในการรักษา สิว หัว ช้าง และสิวทุกชนิดได้จริง อยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์แผนไทย และ เภสัชกร มีมาตรฐานการผลิต GMP มีผลการวิจัยรองรับ ทั้งไทย และ ต่างประเทศ ได้รับการรับรองจาก อย. มาเรียบร้อยแล้ว
ยาสมุนไพร รักษาสิว ตรีผลา หมออรรถวุฒิ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรักษา สิว หัว ช้าง และ คนที่สิวขึ้นบ่อย แล้วอยากให้สิวหาย ไม่กลับมาขึ้นซ้ำง่าย ด้วยคุณสมบัติ ของสารสกัดจากสมุนไพร หลากหลายชนิด ปราศจากสเตียรอยด์ จะไม่เป็นอันตราย ไม่ส่งผลเสียต่อตับ ไต ด้วย เช่น
- สารสกัดสมอทั้ง 5 ได้แก่ สมอไทย สมอพิเภก สมอเทศ สมอดีงู สมอทะเล
- มะขามป้อมสกัด
- ฝางสกัด
- ดอกคำฝอยสกัด
- ชะเอมเทศสกัด
- ขมิ้นอ้อยสกัด
- ขมิ้นชันสกัด ฯลฯ
ซึ่งสารสกัดจากสมุนไพร ทั้งหมดนี้ เต็มเปี่ยมไปด้วย คุณสมบัติ ในการรักษา สิว หัว ช้าง และ สิวทุกชนิด อย่างเต็มรูปแบบ ลงลึก ถึงภายใน เช่น
- ล้างน้ำเหลือง หนอง ลดการอักเสบ ของสิว หัว ช้าง
- ช่วยเคลียร์ของเสียสะสมในร่างกาย ทั้งน้ำเหลืองเสีย ตับ ไต เมือกมัน ตะกรันในลำไส้
- ช่วยปรับปรุง ฟื้นฟู ระบบภายในร่างกาย ตับ ลำไส้ เลือดลม ระบบน้ำเหลือง ทำให้สิว กลับมาขึ้นซ้ำได้ยาก
- ช่วยให้สิว หัว ช้างยุบ
- ผิวใส เด้ง เต่งตึง มีออร่า
- ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น ช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้หลุมสิว ที่เกิดจากสิว หัว ช้าง ตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น
- ช่วยลดรอยดำ รอยแดง ที่เกิดจากสิว หัว ช้าง รวมถึงรอยแผลเป็นต่าง ๆ จากสิว ค่อย ๆ จางลง
- ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย
- ช่วยปรับสมดุลขับถ่าย โดยไม่ทำให้ท้องเสีย เป็นยาอายุวัฒนะ
- ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
หากมีข้อสงสัยใด ๆ เพิ่มเติม สามารถคอมเม้นท์สอบถามได้ เรามีเภสัชกร และ ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษา ทุกปัญหาสุขภาพ