แนะวิธีเลือกกินอาหาร เบาหวานคุมได้อยู่หมัด

แนะวิธีเลือกกินอาหาร เบาหวานคุมได้อยู่หมัด

แชร์ได้เลยค่ะ

สุขภาพดี เริ่มต้นที่การกิน เหตุที่เรากล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่า โรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น หลายอย่างมาจากการกินอาหารที่ผิดหลักโภชนาการ หนึ่งในนั้นคือ อาการเบาหวาน นั่นเอง แต่เมื่อคุณเป็นเบาหวานแล้ว ก็อย่าเพิ่งตื่นตระหนกตกใจ หรือ เครียดมากนัก เพราะเราสามารถคุมเบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูง ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ด้วยการเลือกกินให้เป็นนั่นแหละ ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำ วิธีเลือกกินอาหาร เบาหวาน ให้กับผู้ป่วยเบาหวานทุกท่าน ว่าต้องเลือกกินอย่างไร ถึงจะคุมเบาหวานได้อยู่หมัด และไม่รบกวนชีวิตประจำวันได้

เลือกกินอาหาร เบาหวานลดลงได้ เพราะอาหาร มีส่วนสำคัญ ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูง หรือ ต่ำ ลงได้

รู้จักเลือกกินอาหาร เบาหวาน ดีขึ้นได้

ต้องบอกเลยว่า “อาหาร” เป็นส่วนสำคัญมาก ในการรักษาเบาหวาน และ น้ำตาลในเลือดสูง ให้ดีขึ้นได้ เพราะหากกินยารักษาเบาหวานอย่างเดียว แต่ไม่คุมเบาหวาน ด้วยการเลือกกินอาหารที่เหมาะสม อาการเบาหวานก็ไม่มีทางดีขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นการเลือกกินอาหาร ในปริมาณสัดส่วนกับความต้องการของร่างกายที่เหมาะสม จึงเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยเบาหวานควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อสุขภาพที่ดี และ ป้องกันโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดกับโรคเบาหวานได้ ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า ต้องเป็นเบาหวาน อาหารอะไรที่ควรห้ามกิน และ อาหาร เบาหวานอะไรที่กินได้ เพื่อให้ดีต่อสุขภาพร่างกายมากที่สุด

อาหารเบาหวาน ต้องห้ามกิน
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 
น้ำตาลทุกชนิด 
น้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำผลไม้ เครื่องดื่มเกลือแร่ 
ผลิตภัณฑ์จากนม 
ขนมหวาน 
ผลไม้รสหวานจัด 
ผลไม้แปรรูป 
อาหารแปรรูป 
อาหารไขมันสูง 
คาร์โบไฮเดรต

อาหาร เบาหวาน ต้องห้ามกิน

อย่างแรกเลยคุณต้องรู้ว่า เป็นเบาหวาน อาหารอะไรบ้างที่ห้ามกิน เพราะมิเช่นนั้น ระดับน้ำตาลในเลือดอาจสูงขึ้นฉับพลัน เป็นอุปสรรคต่อการรักษาเบาหวาน และบางครั้งหากกินมากไป อาจอันตรายถึงชีวิตได้

1. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นสาเหตุเบาหวาน ที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เนื่องจากมีคาร์โบไฮเดรต ที่แปรสภาพเป็นน้ำตาล ยิ่งดื่มมากเท่าไหร่ ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากขึ้นเท่านั้น อีกทั้งส่งผลให้ตับอ่อนอักเสบ ไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินได้

2. น้ำตาลทุกชนิด เช่น น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลอ้อย น้ำผึ้ง ครีมเทียม รวมถึงสารให้ความหวานแทนน้ำตาลด้วย เพราะน้ำตาลเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ที่สามารถเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในเลือด ได้อย่างรวดเร็ว 100% จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวาน อาหารที่กินก็ไม่ควรใส่น้ำตาลลงไป

3. น้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำผลไม้ เครื่องดื่มเกลือแร่ เช่น น้ำเก๊กฮวย น้ำลำไย ชาเขียว เพราะมีส่วนผสมของน้ำตาลสูง มีแคลอรี่สูง ส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น รวมถึงน้ำหนักตัวสูงขึ้นด้วย

4. ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นมช็อคโกแลต นมเปรี้ยว นมข้นหวาน โยเกิร์ตปรุงแต่งรส ชีส เป็นต้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์จากนม มีส่วนผสมของ โปรตีน ไขมันแล้ว คาร์โบไฮเดรต ที่อยู่ในรูปน้ำตาลแลคโตส ซึ่งส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด

5. ขนมหวาน เบเกอรี่ เพราะมีส่วนผสมของน้ำตาลสูงเช่นกัน

6. ผลไม้รสหวานจัด เช่น ทุเรียน ลำไย ลิ้นจี่ ละมุด ขนุน เป็นต้น

7. ผลไม้แปรรูป เช่น ผลไม้เชื่อม กวน ดอง แช่อิ่ม อบ ตากแห้ง ผลไม้กระป๋อง เป็นต้น เพราะมีการใช้น้ำตาลในการแปรรูป

8. อาหารแปรรูป จำพวกอาหารหมักดอง อาหารตากแห้ง อาหารบรรจุกระป๋อง เช่น ผักดอง ปลาร้า เต้าเจี้ยว เต้าหู้ยี้ ไส้กรอก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง เป็นต้น เพราะมักจะมีน้ำตาล โซเดียม และไขมันอิ่มตัวสูง เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นอาหาร เบาหวานต้องห้ามจริง ๆ

9. อาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน ของมัน ของทอด อาหารฟาสต์ฟู้ด เพราะนอกจากจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงแล้ว ยังทำให้มีไขมันในเส้นเลือดสูงด้วย

10. คาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว พาสต้า เส้นก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น เพราะมีคาร์โบไฮเดรต ที่สามารถเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล ได้อย่างรวดเร็ว

อาหาร เบาหวาน ที่กินได้ แต่ต้องควบคุมปริมาณ

อาหารเบาหวาน ที่กินได้ แต่ต้องคุมปริมาณ
นมรสจืด นมขาดมันเนย นมถั่วเหลืองสูตรไม่มีน้ำตาล 
ผลไม้ รสไม่หวานจัด เช่น องุ่น ส้ม ชมพู่ กล้วย
คาร์โบไฮเดรต ในรูปแบบธรรมชาติ เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต 
เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ ไม่ติดมัน ไม่ติดหนัง เช่น ปลา อกไก่ กุ้ง 
ไข่ไก่ ไม่เกินวันละ 1 ฟอง 
น้ำมันกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันคาโนล่า น้ำมันมะกอก

สำหรับกลุ่มอาหาร เบาหวานที่กินได้ แต่ต้องควบคุมปริมาณ มีดังต่อไปนี้

1. นมรสจืด นมขาดมันเนย นมถั่วเหลืองสูตรไม่มีน้ำตาล โดยปริมาณที่เหมาะสม อยู่ที่ 240 มิลลิลิตร/วัน

2. ผลไม้สด รสชาติไม่หวานจัด สามารถกินได้ โดยต้องควบคุมปริมาณในการกินต่อวัน เช่น องุ่น กินได้ไม่เกินมื้อละ 5 – 8 ผล / ส้ม ชมพู่ กล้วย กินได้ไม่เกินมื้อละ 1 – 2 ผล เป็นต้น

3. คาร์โบไฮเดรต ในรูปแบบธรรมชาติ เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ลูกเดือย ขนมปังโฮลวีต เป็นต้น สามารถกินได้ โดยปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่อวัน ขึ้นอยู่กับระดับน้ำตาลในเลือด และ พลังงานที่ต้องการในแต่ละวัน สามารถตรวจสอบได้ ด้วยการตรวจเบาหวาน และ วัดระดับน้ำตาลในเลือดก่อนกินอาหาร และ หลังกินอาหาร 1 – 2 ชั่วโมง โดยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ให้ต่ำกว่า 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร 

3. เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ ไม่ติดมัน ไม่ติดหนัง เช่น เนื้อปลา อกไก่ กุ้ง เป็นต้น

4. ไข่ไก่ ไม่เกินวันละ 1 ฟอง หากมีคอเลสเตอรอลสูง ให้หลีกเลี่ยงการกินไข่แดง หรือ กินไข่ได้ประมาณ 2 – 3 ฟอง/สัปดาห์

5. น้ำมันกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (MUFA) แนะนำว่าหากทำอาหารกินเอง ให้ใช้น้ำมันกลุ่มนี้ทำอาหาร เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันคาโนล่า น้ำมันมะกอก เป็นต้น ปริมาณ 6 ช้อนชา/วัน ห้ามใช้น้ำมันปาล์ม น้ำมันจากสัตว์ น้ำมันมะพร้าว หรือประกอบอาหารที่ใช้กะทิ ครีมเทียม แนะนำให้ประกอบอาหารด้วยวิธีต้ม นึ่ง ย่าง แทนการทอด หรือ ผัด ที่ต้องใช้น้ำมันจะดีกว่า

อาหาร เบาหวาน ที่กินได้ ไม่จำกัดปริมาณ

อาหารเบาหวาน ที่กินได้ ไม่จำกัดปริมาณ

ผักใบเขียว เช่น ผักกาด ผักบุ้ง ผักคะน้า ตำลึง แตงกวา 

ผลไม้ไฟเบอร์สูง เช่น แอปเปิ้ลเขียว แก้วมังกร กล้วย

อาหาร เบาหวาน ที่กินได้ ไม่จำกัดปริมาณ ไม่ได้หมายความว่า ให้กินจนอิ่ม เดินไม่ไหว ย่อยไม่ทัน แต่หมายถึงว่า ควรกินเป็นประจำ ทุกมื้อ กินให้หลากหลาย เพราะอาหารในกลุ่มนี้ จะช่วยดูดซับน้ำตาลไม่ให้เข้าสู่กระแสเลือดเร็วเกินไป ร่างกายสามารถดึงน้ำตาลไปใช้ได้ อย่างพอดี

1. ผักใบเขียว เป็นผักที่มีไฟเบอร์สูง ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลของร่างกาย ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูง เหมาะกับการทำมาประกอบอาหาร เบาหวานลดลงได้ด้วย เช่น ผักกาด ผักบุ้ง ผักคะน้า ตำลึง แตงกวา เป็นต้น  

2. ผลไม้ไฟเบอร์สูง ที่มีส่วนช่วยชะลอการดูดซึมของน้ำตาลในเลือดได้ด้วย เช่น แอปเปิ้ลเขียว แก้วมังกร ฝรั่ง โดยปริมาณที่เหมาะสมคือมื้อละ ½ ถึง 1 ผล หรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่สามารถกินได้มื้อละ 10 – 12 ผล

ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เบาหวานที่กินได้ หรือ กินได้ไม่จำกัดปริมาณ ก็ควรปรึกษาแพทย์ หรือ นักโภชนาการ เพื่อขอคำแนะนำในการจัดปริมาณอาหาร และ สัดส่วนอาหาร ให้เหมาะกับระดับอาการเบาหวาน และ น้ำหนักของตัวเอง

5 เมนูอาหาร เบาหวาน ก็กินให้อร่อยได้

5 เมนูอาหาร เบาหวาน ก็กินให้อร่อยได้
ผัดผักใส่กุ้ง 
สลัดทูน่า
ลาบเห็ดฟาง
ข้าวต้มไรซ์เบอร์รี่ปลา
แกงเลียงกุ้งสด

หลายคนอาจคิดว่า เป็นเบาหวาน ต้องกินแต่อาหารต้ม รสชาติจืด ชืด หน้าตาไม่น่ากิน ซึ่งบอกเลยว่าไม่จริงเสมอไป เพราะคนที่เป็นเบาหวาน อาหารที่กิน ก็ไม่ได้แตกต่างจากอาหารที่คนทั่วไปกิน ในชีวิตประจำวัน เพียงแต่ต้องคุมเบาหวาน ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบ จำกัดปริมาณเครื่องปรุงรส ไม่ให้รสจัดเกินไป และ ควบคุมปริมาณการกินให้เหมาะสมเท่านั้นเอง เพื่อป้องกันอาการเบาหวานกำเริบ หรือ น้ำตาลในเลือดสูง โดยเมนูอาหารสำหรับคนเป็นเบาหวาน ที่เราอยากแนะนำ เช่น

1. ผัดผักใส่กุ้ง : แนะนำให้เลือก หลากหลายชนิด มาประกอบอาหาร เช่น ถั่วลันเตา บล็อกโคลี่ ข้าวโพดอ่อน แล้วที่แนะนำให้ใส่กุ้ง ก็เพราะว่า กุ้งเป็นเนื้อสัตว์ไขมันต่ำมาก นั่นเอง

2. สลัดทูน่า : แนะนำให้เลือกน้ำสลัด ที่ทำจากไข่ขาว หรือ น้ำสลัดใส

3. ลาบเห็ดฟาง : แนะนำให้ใช้เห็ดฟาง เพราะมีส่วนช่วยลดน้ำตาลในเลือด และ ไขมันในเส้นเลือดได้ อีกทั้งหอมแดง และ ผักชีฝรั่งที่ใช้ทำอาหาร ยังมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระด้วย

4. ข้าวต้มไรซ์เบอร์รี่ปลา : แนะนำให้ใช้ข้าวไรซ์เบอร์รี่ เนื่องจากมีส่วนช่วยควบคุมน้ำตาล มีส่วนช่วยลดระดับไขมัน คอเลสเตอรอล และ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

5. แกงเลียงกุ้งสด : แกงเลียง นับว่าเป็นเมนูสุขภาพ เพราะประกอบไปด้วยผัก สมุนไพรรักษาเบาหวาน หลากหลายชนิด เช่น บวบเหลี่ยม ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน เห็ดฟาง ใบแมงลัก เป็นต้น

5 เทคนิคคุมเบาหวาน ควบคู่การกินอาหาร เบาหวานลดลงชัวร์

5 เทคนิคคุมเบาหวาน ควบคู่การกินอาหาร เบาหวานลดลงชัวร์
1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
2. ไม่เครียด
3. พักผ่อนให้เพียงพอ
4. ลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
5. กินยาสมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน

การรักษาเบาหวาน ให้หายดีนั้น นอกจากการคุมเบาหวาน ด้วยการเลือกกินอาหาร ที่เหมาะสำหรับคนเป็นเบาหวานแล้ว การปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ก็สำคัญเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น

1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะสาเหตุเบาหวาน ส่วนหนึ่งมาจากการกิน แล้วไม่ออกกำลังกาย ดังนั้นหากเป็นเบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูงแล้ว แนะนำให้ออกกำลังกายเบา ๆ ควบคู่ไปกับการรักษาเบาหวานด้วย เพราะการออกกำลังกาย จะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ น้ำตาลที่สะสมในเลือดจะค่อย ๆ ลดลงได้ โดยเราแนะนำให้ออกกำลังกายเบา ๆ วันละประมาณ 30 นาที เช่น เดินเร็ว ปั่นจักรยาน โดยหลีกเลี่ยงแดดร้อนจัด และก่อนออกกำลังกาย ให้ตรวจเบาหวาน ดูระดับน้ำตาลด้วยว่า ต่ำกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หรือไม่ เพื่อป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ระหว่างออกกำลังกาย

2. ไม่เครียดจนเกินไป เพราะความเครียด มีส่วนกระตุ้นให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ เนื่องจากร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมา ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด นั่นเอง

3. พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการนอน มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดด้วย เพราะหากนอนน้อยกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน ความไวต่ออินซูลินจะลดลง 14 – 21% เลยทีเดียว อีกทั้งร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล มากขึ้นด้วย

4. ลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะสาเหตุเบาหวานชนิดที่ 2 ส่วนหนึ่งมาจากน้ำหนักที่เกินมาตรฐานนั่นเอง

5. กินยาสมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน ที่สกัดจากสมุนไพรรักษาเบาหวาน 100% ซึ่งการกินยาสมุนไพรนี้ นอกจากช่วยรักษาเบาหวานแล้ว ยังช่วยคุมเบาหวาน และรักษาเบาหวานได้ โดยที่ไม่ต้องเสี่ยงกับสารตกค้างในร่างกาย และช่วยบำรุงร่างกายไปในตัว

สมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน เป็นทั้งอาหาร และ ยารักษาได้

สมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน เป็นทั้งอาหาร และ ยารักษาได้ สาเหตุที่เรากล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่า สมุนไพรไทย หลากหลายชนิด มีประโยชน์ในแง่ของการรักษาโรคเบาหวานได้ ส่วนใหญ่ที่มักนำมาประกอบอาหาร เบาหวานดีขึ้นด้วย เช่น ขิง กระเจี๊ยบเขียว มะระขี้นก ขมิ้นชัน ฯลฯ

ดังนั้น เราจึงเห็นผู้ผลิตหลากหลายแห่ง ผลิตยาสมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน ที่สกัดจากสมุนไพร ออกมาวางจำหน่าย เพื่อความง่ายในการบริโภค โดยไม่ต้องวุ่นวายกับการเลือกผัก หรือ สมุนไพรรักษาเบาหวาน มาประกอบอาหารกินเอง แต่การเลือกยาสมุนไพรรักษาโรคเบาหวานนั้น เราแนะนำให้เลือกจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ มีการรับความปลอดภัยจาก อย. มาตรฐานการผลิต GMP มีผลวิจัยรองรับว่าสมุนไพร ที่ถูกนำมาสกัดเป็นยานั้น สามารถรักษาเบาหวานได้จริง

หากมีอาการเหล่านี้ ตรีผลา FORTE ยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน ช่วยได้!
เป็นเบาหวาน เบาหวานขึ้นตา เบาหวานลงไต แผลเบาหวาน
น้ำตาลในเลือดสูง
กระหายน้ำ 
ปัสสาวะบ่อย
เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
อ้วน 
ปวดเมื่อย
สายตาพร่ามัว 
ชาปลายมือ เท้า

หากให้กล่าวถึง ผู้ผลิตยาสมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน ที่มีชื่อเสียงน่าเชื่อถือ ต้องยกให้ “ศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ” เพราะมีชื่อเสียงยาวนาน มากกว่า 30 ปี มีผู้ซ้ำซ้ำ และ บอกต่อกันเป็นจำนวนมาก โดยยาสมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน ตรีผลา FORTE ของหมออรรถวุฒิ ถูกสกัดจากสมุนไพรรักษาเบาหวาน มากถึง 22 ชนิด พิถีพิถันตั้งแต่การเลือกสมุนไพร การเก็บเกี่ยว ใช้เทคนิคการสกัดยาเฉพาะ เพื่อให้ได้สารสำคัญ ตัวยา ออกฤทธิ์ดี และ ครบถ้วน มีผลวิจัยรองรับถึงประสิทธิภาพ ในการรักษาเบาหวานให้ดีขึ้นได้จริง ด้วยคุณสมบัติดังนี้

  • กระตุ้นตับอ่อน บำรุงตับอ่อน ให้หลั่งอินซูลินได้ดีขึ้น
  • ลดระดับน้ำตาลในเลือดสูง ให้กลับสู่ภาวะปกติ
  • เคลียร์หลอดเลือดส่วนปลายที่แข็ง ให้เลือดลมหมุนเวียนได้ดี
  • ลดคอเลสเตอรอล ไขมัน ไตรกลีเซอไรด์
  • ล้างไขมันเกาะตับ ไขมันพอกตับ ล้างไขมันในเลือด ไขมันอุดตันเส้นเลือด
  • ล้างเมือกมัน ตะกรันในลำไส้ ล้างพิษตับ ล้างน้ำเหลืองเสีย
  • ขับปัสสาวะ ขับของเสียในใต
  • ปรับสมดุลขับถ่าย สมดุลความดัน  
  • ช่วยทำให้แผลเบาหวานหายเร็วขึ้น
  • ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย
  • บำรุงปลายประสาท แก้อาการชาปลายมือ และ เท้า จากอาการเบาหวาน
  • ป้องกันเบาหวานขึ้นตา เบาหวานลงไต และโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ จากภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
  • ลดน้ำหนัก หน้าท้อง ไขมันส่วนเกิน อย่างปลอดภัย

ซึ่งสามารถไปตรวจเบาหวานกับแพทย์ ทุก ๆ 2 เดือน จนเป็นปกติได้เลย แล้วจะพบว่า ยาสมุนไพรรักษาเบาหวาน ตรีผลา FORTE หมออรรถวุฒิ มีส่วนช่วยรักษาเบาหวาน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ลดลงได้ อีกทั้งช่วยฟื้นฟู ร่างกายดีขึ้นทั้งหมดอีกด้วย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

หากมีข้อสงสัยใด ๆ เพิ่มเติม สามารถคอมเม้นต์สอบถามได้ เรามีเภสัชกร และ ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพ


แชร์ได้เลยค่ะ

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top