รู้หรือไม่ ? เป็นริดสีดวง ห้ามกินอะไร อยากหายเร็ว ต้องอ่าน !

แชร์ได้เลยค่ะ

ริดสีดวง ห้ามกินอะไร

จดด่วน! เป็นริดสีดวง ห้ามกินอะไร ??

1. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เป็นริดสีดวง ห้ามกินอะไร อย่างแรกที่จำเป็นต้องทราบเลยก็คือ ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีผลต่อลำไส้ ทำให้เนื้อเยื่อลำไส้อักเสบได้ หากเกิดอาการท้องผูกบ่อย หรือ ท้องเสียบ่อยจากการดื่ม ก็จะส่งผลให้โรคริดสีดวงทวารแย่ลง และจะเพิ่มความรุนแรงของโรคขึ้นได้ด้วย 

2. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง มีผลต่อลำไส้และระบบขับถ่าย เนื่องจากคาเฟอีนทำให้ปัสสาวะบ่อย ร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินไป จนอาจทำให้เกิดอาการท้องผูก อุจจาระไม่ออก ต้องเบ่งอุจจาระแรง หรือ อาจทำให้ท้องเสีย จนกระตุ้นให้ริดสีดวงทวารมีอาการหนักมากกว่าเดิม


3. อาหารรสจัด

อาหารรสจัด หวานจัด เผ็ดจัด เค็มจัด เปรี้ยวจัด นับเป็นอาหารแสลงริดสีดวง ล้วนมีส่วนทำให้ริดสีดวงไม่หายไปสักที เนื่องจากอาหารรสจัด จะทำให้เกิดการระคายเคือง ในกระเพาะอาหาร มีผลต่อระบบลำไส้และระบบขับถ่ายโดยตรง ทำให้ท้องเสียหรือปวดริดสีดวงมากขึ้น

4. อาหารหมักดอง

เป็นริดสีดวง ห้ามกินอะไร? อาหารหมักดอง ก็นับว่าเป็น อาหารแสลงริดสีดวงได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ผักดอง ผลไม้ดอง ปลาร้า แซลมอลดอง ปูดอง หอยดอง กิมจิ ขนมจีน เป็นต้น เพราะมีผลกระทบต่อระบบย่อยอาหาร ระบบดูดซึมสารอาหาร ระบบไหลเวียนโลหิต ฯลฯ เนื่องจากกรด และ สารบางอย่างที่อยู่ในอาหารหมักดอง จะกระตุ้นให้ริดสีดวงอักเสบ และ อาการอาจกำเริบมากยิ่งขึ้น 


5. อาหารทะเล

อาหารทะเล เช่น หอยแครง ปลาหมึก กุ้ง นับว่าเป็นอาหารแสลงริดสีดวงของหลาย ๆคนเช่นกัน บางคนกินแล้วไม่เป็นอะไร แต่บางคนกินแล้ว จะเกิดอาการคัน อักเสบ ปวดริดสีดวงขึ้นมาได้ ดังนั้นหากกำลังเป็นริดสีดวงทวารอยู่ แนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารทะเล เพื่อความมั่นใจจะดีที่สุด

6. เนื้อแดง และ เครื่องในสัตว์

อย่างที่ทราบกันดีว่า เนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เป็นอาหารย่อยยาก ดังนั้นหากกำลังเป็นโรคริดสีดวงทวารอยู่ แนะนำให้เลี่ยงอาหารที่ทำจากเนื้อแดง และ เครื่องในสัตว์จะดีกว่า เพราะหากรับประทานเข้าไปจำนวนมาก จะส่งผลให้เกิดอาการท้องผูกได้   


7. ผัก และ ผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน

หลายคนไม่เคยทราบว่า ผัก และ ผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน เช่น ทุเรียน ลำไย ละมุด ขนุน สะตอ ชะอม กุยฉ่าย หน่อไม้ เป็นต้น เป็นอาหารต้องห้ามริดสีดวง โดยผัก และ ผลไม้เหล่านี้ มีส่วนกระตุ้นให้ริดสีดวงอักเสบมากกว่าเดิมได้

8. อาหารแช่แข็ง และ อาหารฟาสต์ฟู้ด

คนเป็นริดสีดวงไม่ควรกิน อาหารแช่แข็ง และ อาหารฟาสต์ฟู้ด เนื่องจากมีปริมาณโซเดียมสูง ทำให้เวลาทานจะรู้สึกหิวน้ำบ่อย หลอดเลือดบริเวณทวารหนักเกิดแรงกดดันมากขึ้น จึงเป็นการกระตุ้นริดสีดวงทวาร ให้อักเสบ และ มีขนาดใหญ่ขึ้นได้


9. ข้าว และ แป้งขัดสี

หากกำลังรักษาริดสีดวง ด้วยตัวเองอยู่ แนะนำให้หลีกเลี่ยงข้าวขาว ขนมปังขาว พาสต้า จะดีกว่า เพราะข้าว และ แป้งขัดสี มีเส้นใยอาหารน้อยมาก ทำให้มีโอกาสเกิดท้องผูกได้ง่าย ซึ่งเสี่ยงต่อการนั่งเบ่งอุจจาระนาน จนริดสีดวงทวารกำเริบนั่นเอง

10. ของมัน ของทอด

จำไว้เลยว่า ห้ามกินของมัน ของทอด เพราะเป็นอาหารที่มีไขมัน และ คอเลสเตอรอลสูง อีกทั้งย่อยยาก ส่งผลกระทบต่อระบบขับถ่าย นอกจากนี้ของมัน ของทอดบางชนิดมีรสเค็ม อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ เกิดความดันในหลอดเลือดมากขึ้น ส่งผลให้ริดสีดวงทวารไม่หายไปนั่นเอง


รักษาริดสีดวง ด้วยตัวเองได้ แค่ทำตามนี้ !!

  • หลีกเลี่ยงการนั่งทำงานอยู่กับที่เป็นเวลานาน ควรขยับร่างกาย เดินไปเดินมาบ้าง เพราะการนั่งอยู่กับที่นาน ๆ จะทำให้เส้นเลือดบริเวณเชิงกรานถูกกดทับ ริดสีดวงถูกกดทับ เลือดไหลเวียนได้ช้า ริดสีดวงไม่หายสักที
  • หลีกเลี่ยงการนั่งถ่ายอุจจาระในห้องน้ำเป็นเวลานาน ไม่เล่นโทรศัพท์มือถือ หรือ อ่านหนังสือเวลาขับถ่าย เพราะการนั่งถ่ายนาน ๆ จะเพิ่มความเสี่ยงให้อาการริดสีดวงหนักมากกว่าเดิม
  • ไม่เบ่งอุจจาระแรง เพราะจะทำให้หลอดเลือดโป่งพองกว่าเดิม หัวริดสีดวงใหญ่ขึ้น หรือ หัวริดสีดวงแตกได้
  • หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก เพราะจะเกิดการบาดเจ็บ เลือดคั่ง ทำให้ริดสีดวงทวารแตก หรือ อักเสบหนักกว่าเดิม
  • หลีกเลี่ยงการยกของหนัก เพราะเป็นการเพิ่มแรงดันในช่องท้อง 
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ปกติ

  • หลีกเลี่ยงการปั่นจักรยาน ขี่ม้า เพราะจะเพิ่มแรงกดทับ และ การเสียดสี
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อป้องกันอาการท้องผูก 
  • ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา ไม่กลั้นอุจจาระ
  • ฝึกขมิบอุ้งเชิงกรานบ่อย ๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อรูทวาร และ เส้นเลือดโดยรอบแข็งแรง
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน  
  • รักษาความสะอาด หลังขับถ่าย งดใช้กระดาษชำระแบบแข็ง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่หัวริดสีดวง
  • นั่งแช่ในน้ำอุ่น ซึ่งควรแช่ทุกวัน ประมาณ 15 นาที

อาหารแก้ริดสีดวงมีอะไรบ้าง ที่ควรหามากิน ?!



รักษาริดสีดวงด้วยตัวเองด้วยยาสมุนไพรรักษาริดสีดวง


สรุป



แชร์ได้เลยค่ะ

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top