รวมวิธีรักษาริดสีดวง แบบไหนเจ็บน้อยสุด ไม่ผ่าตัด ริดสีดวงได้ไหม

รวมวิธีรักษาริดสีดวง แบบไหนเจ็บน้อยสุด ไม่ผ่าตัด ริดสีดวงได้ไหม

แชร์ได้เลยค่ะ

โรคริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids) เกิดจากหลอดเลือดดำบริเวณทวารหนัก โป่งพองจนเป็นติ่งนูน ยื่นออกมาเวลาเบ่งอุจจาระ ทำให้เวลาขับถ่ายจึงเกิดเลือดออกมาได้ หากริดสีดวงระยะแรก หัวจะยุบกลับเข้าไปเองได้ แต่หากปล่อยไว้เรื้อรัง ไม่รักษาริดสีดวง หัวริดสีดวงจะไม่สามารถยุบกลับเข้าไปเองได้ และอาจเกิดอาการปวดได้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้อาการ ริดสีดวงมีหลายระยะ วิธีการรักษาริดสีดวง ก็มีหลากหลายวิธีให้เลือกใช้ แล้ววิธีไหนที่จะเจ็บน้อยสุด เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด เราได้รวบรวมมาให้คุณได้ตัดสินใจกัน

รู้หรือไม่? รักษาริดสีดวงทวาร สามารถทำเองได้ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องพบแพทย์เสมอไป

ก่อนรักษาริดสีดวง ต้องรู้! คุณเป็นริดสีดวงทวาร ระยะไหน?

ก่อนรักษาริดสีดวง ต้องรู้! คุณเป็นริดสีดวงทวาร ระยะไหน?

ก่อนรักษาริดสีดวง คุณจำเป็นต้องรู้ก่อนว่า ตัวเองเป็นริดสีดวงทวารประเภทไหน แล้วระยะริดสีดวง อยู่ในระยะใด เพื่อการรักษาอย่างถูกต้องที่สุด โดยอาการ ริดสีดวง แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

1. อาการ ริดสีดวงภายใน (Internal Hemorrhoids) เกิดขึ้นภายในทวารหนัก แบ่งระยะริดสีดวงภายใน ออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้

  • ระยะที่ 1 : เป็นระยะริดสีดวงเริ่มแรก หัวจึงมีขนาดเล็ก ไม่มีติ่งยื่นออกมา ไม่สามารถมองเห็นจากภายนอกได้ แต่จะมีเลือดออก เวลาถ่ายอุจจาระ หรือ หลังถ่ายอุจจาระเสร็จ เป็นระยะที่สามารถรักษาริดสีดวงได้ง่ายสุด สามารถรักษาด้วยตัวเองได้
  • ระยะที่ 2 : หัวริดสีดวงทวาร มีขนาดใหญ่มากขึ้น เห็นเป็นติ่งยื่นออกมาเวลาเบ่งอุจจาระ แต่ติ่งสามารถหดกลับเข้าไปเอง เป็นระยะที่สามารถรักษาริดสีดวงด้วยตัวเองได้ ง่ายๆ เช่นกัน
  • ระยะที่ 3 : เป็นระยะริดสีดวงโตขึ้นเรื่อยๆ เห็นเป็นติ่งยื่นออกมาเวลาเบ่งอุจจาระ แต่ติ่งไม่สามารถหดกลับเข้าไปเองได้แล้ว ต้องใช้นิ้วมือดันเข้าไป เป็นระยะที่ต้องใช้เวลา ในการรักษาริดสีดวงพอสมควร แต่สามารถรักษาด้วยตัวเองได้
  • ระยะที่ 4 : หัวริดสีดวงทวารมีขนาดใหญ่ เป็นติ่งยื่นออกมา ไม่สามารถใช้นิ้วดันกลับเข้าไปได้แล้ว และมีอาการปวดริดสีดวงร่วมด้วย เป็นระยะที่ต้องใช้เวลา ในการรักษาริดสีดวงพอสมควรเช่นกัน อาจรักษาริดสีดวงด้วยตัวเอง หรือ พบแพทย์ร่วมด้วยก็ได้

2. อาการ ริดสีดวงภายนอก (External Hemorrhoids)เกิดเป็นหัวริดสีดวงที่ปากรอยย่นทวารหนัก ยื่นออกมาจนมองเห็นได้ชัดเจน มีอาการปวด เจ็บ ระคายเคืองร่วมด้วย เป็นระยะที่ต้องใช้เวลา ในการรักษาริดสีดวงพอสมควร อาจรักษาริดสีดวงด้วยตัวเอง หรือ พบแพทย์ร่วมด้วยก็ได้เช่นกัน

สาเหตุ การ เป็น ริดสีดวง รู้แบบนี้ควรเลี่ยง!

สาเหตุ การ เป็น ริดสีดวง รู้แบบนี้ควรเลี่ยง!

ริดสีดวงทวาร เป็นโรคที่ใครๆ ก็เป็นได้ โดยเฉพาะผู้ที่ละเลย ไม่ดูแลเอาใจใส่เรื่องระบบขับถ่าย รวมไปถึงเหล่ามนุษย์ออฟฟิศทั้งหลาย ที่ชอบนั่งทำงานนานๆ จะมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นเรามาดูกันอย่างละเอียดดีกว่าว่า สาเหตุ การ เป็น ริดสีดวง เกิดจากอะไรได้บ้าง

  • การนั่งทำงานอยู่กับที่เป็นเวลานาน มีโอกาสเกิดริดสีดวงทวารได้ง่าย เพราะการนั่งนานๆ จะทำให้เส้นเลือดบริเวณเชิงกรานถูกกดทับ เลือดไหลเวียนได้ช้า ส่งผลให้เส้นเลือดบริเวณทวารโป่งพอง และกลายเป็นโรคริดสีดวงทวารได้ในที่สุด ซึ่งสาเหตุ การ เป็น ริดสีดวงนี้ป้องกันได้ ด้วยการลุกเดิน ขยับร่างกาย เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณเชิงกราน
  • ชอบนั่งถ่ายอุจจาระในห้องน้ำเป็นเวลานาน โดยเฉพาะผู้ที่ชอบเล่นโทรศัพท์มือถือ หรือ นั่งอ่านหนังสือขณะขับถ่าย  
  • ไม่รับประทานผัก ผลไม้ ที่มีกากใย จนทำให้ระบบขับถ่ายผิดปกติ เกิดอาการท้องผูกเรื้อรัง
  • ดื่มน้ำไม่เพียงพอในปริมาณที่ร่างกายต้องการได้รับต่อวัน จนทำให้ท้องผูก ซึ่งสาเหตุ การ เป็น ริดสีดวงนี้ป้องกันได้ ด้วยการดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
  • ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นประจำ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ มีผลทำให้เนื้อเยื่อลำไส้อักเสบ เกิดการท้องผูก หรือ ท้องเสียได้ หากท้องผูก หรือ ท้องเสียบ่อย ก็จะส่งผลให้มีอาการ ริดสีดวงเกิดขึ้นนั่นเอง
  • ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เป็นประจำ ซึ่งมีผลต่อลำไส้ และ ระบบขับถ่าย เนื่องจากคาเฟอีนมีส่วนกำจัดน้ำในร่างกาย ผ่านการปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะบ่อย ร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินไป จนอาจเกิดอาการท้องผูก หรือ ท้องเสีย และกลายเป็นริดสีดวงทวารได้ในที่สุด
  • ชอบรับประทานอาหารรสจัด ของหมักดอง ซึ่งอาจทำให้ท้องเสียบ่อย เกิดการระคายเคืองที่ขอบทวาร เกิดเป็นริดสีดวงทวารได้
  • มีอาการท้องเสียบ่อย จนเกิดการบาดเจ็บ ที่เนื้อเยื่อหลอดเลือดรูทวาร
  • มีพฤติกรรมเบ่งอุจจาระแรง จนทำให้หลอดเลือดโป่งพองได้ง่าย
  • รับประทานยาระบายบ่อยเกินความจำเป็น
  • ใช้ยาสวนอุจจาระบ่อยเกินความจำเป็น
  • มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก จนเกิดการกดทับ หรือ เสียดสี จนบาดเจ็บ แล้วมีเลือดคั่งในหลอดเลือด
  • มีอาการไอเรื้อรัง เกิดแรงดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น
  • ทำงานยกของหนักบ่อย
  • อายุที่มากขึ้น ส่งผลให้เนื้อเยื่อรอบหลอดเลือดเสื่อมสภาพ และโป่งพองได้
  • กรรมพันธุ์  
  • ป่วยเป็นโรคบางชนิด เช่น โรคตับแข็ง โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคต่อมลูกหมากโต มีก้อนเนื้องอกในช่องท้อง เป็นต้น
  • น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน หรือ เป็นโรคอ้วน
  • กำลังตั้งครรภ์ โดยน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการกดทับของเนื้อเยื่อหลอดเลือด หลอดเลือดจึงบวมได้ง่าย โดยสาเหตุ การ เป็น ริดสีดวงจากการตั้งครรภ์นี้ ไม่สามารถควบคุมได้ แต่หากคลอดแล้ว มักจะหายได้เอง

รักษาริดสีดวง มีกี่วิธี แบบไหนเจ็บน้อยที่สุด

การรักษาริดสีดวง สามารถรักษาด้วยตัวเองได้ และ สามารถพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาได้เช่นกัน ซึ่งวิธีรักษาริดสีดวง สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

รักษาริดสีดวง มีกี่วิธี แบบไหนเจ็บน้อยที่สุด
1. รักษาริดสีดวง ด้วยตัวเอง เช่น นั่งแช่ในน้ำอุ่น 15 นาที ทานผักผลไม้ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ไม่นั่งส้วมนาน เป็นสิ่งที่ต้องทำทุกคน ความเจ็บปวด ขึ้นอยู่กับระยะริดสีดวง ของตัวเอง
2. รักษาริดสีดวง ด้วยการใช้ยาเหน็บ ไม่เจ็บเท่าไหร่ แต่จะรู้สึกหน่วงที่รูทวาร  
3. รักษาริดสีดวง ด้วยการฉีดยา จะเจ็บพอสมควร 
4. รักษาริดสีดวง ด้วยการรัดยาง จะเจ็บพอสมควร และระคายเคือง ปวดหน่วงที่ทวารหนักด้วย
5. รักษาริดสีดวง ด้วยการผ่าตัด จะเจ็บจี๊ดๆ เพราะมีการฉีดยาชารอบรูทวาร ก่อนผ่าตัด

1. รักษาริดสีดวง ด้วยตัวเอง

ไม่ว่าสาเหตุ การ เป็น ริดสีดวงของคุณ จะเกิดจากอะไร การรักษาริดสีดวง ด้วยตัวเอง เป็นวิธีรักษาขั้นพื้นฐาน ที่ทุกคนควรทำ ไม่ว่าจะเป็น หรือ ไม่เป็นริดสีดวงทวารหรือไม่ โดยเน้นไปที่การดูแลสุขภาพ และ ระบบขับถ่าย ในชีวิตประจำวัน เพื่อป้องกัน ไม่ให้โรคริดสีดวงทวารเกิดขึ้นได้อีก เช่น

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ ต่อประมาณที่ร่างกายต้องการได้รับต่อวัน
  • ทานผักผลไม้เป็นประจำ เพื่อป้องกันอาการท้องผูก
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
  • ไม่นั่งเบ่งอุจจาระนาน
  • นั่งแช่ในน้ำอุ่น ประมาณ 15 นาที อาจผสมด่างทับทิมลงไปในด้วยก็ได้ แนะนำให้ทำก่อนหรือหลังถ่ายอุจจาระเสร็จ หรือ หลังอาบน้ำเสร็จก็ได้

2. รักษาริดสีดวง ด้วยการใช้ยาเหน็บ

การรักษาริดสีดวง ด้วยการใช้ยาเหน็บ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการ ริดสีดวงระยะ 1 หรือ 2 มีอาการคัน อักเสบ ปวด บวม และช่วยรักษาริดสีดวงในผู้ที่ถ่ายเป็นเลือดได้ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่เจ็บเท่าไหร่นัก แต่จะรู้สึกหน่วงที่รูทวาร สำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้มาก่อน โดยยารักษาริดสีดวงทวารแบบเหน็บ จะมีลักษณะคล้ายกระสวย มีปลายแหลม ก้นมน เป็นเม็ดนิ่ม โดยวิธีใช้ ต้องล้างมือให้สะอาด นอนตะแคงข้าง ขาด้านล่างเหยียดตรง ขาด้านบนงอขึ้น ให้เข่าชิดกับหน้าอกมากที่สุด จากนั้นค่อยๆ สอดยาเหน็บด้านที่มีปลายแหลมเข้าไปในรูทวาร โดยใช้นิ้วดันเข้าไปช้าๆ ให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากนั้นให้นอนนิ่งๆ ประมาณ 15 นาที เพื่อให้ยาละลายจนหมด โดยทำทุกวัน จนกว่าอาการ ริดสีดวงจะดีขึ้น

3. รักษาริดสีดวง ด้วยการฉีดยา  

การรักษาริดสีดวง ด้วยการฉีดยา เป็นการฉีดเข้าใต้ขั้วริดสีดวงทวาร เหมาะสำหรับระยะริดสีดวงที่ไม่สามารถหดกลับเข้าไปเองได้ หัวริดสีดวงทวารย้อยออกมาไม้มาก โดยตัวยาจะทำให้หลอดเลือดดำฝ่อ หัวริดสีดวงทวารยุบไป โดยต้องฉีดติดต่อกันประมาณ 1 เดือน จำนวนครั้งที่ฉีดขึ้นอยู่กับขนาดหัวริดสีดวง เป็นวิธีที่เจ็บพอสมควร และมีโอกาสเกิดริดสีดวงทวารขึ้นมาใหม่ได้อีก

4. รักษาริดสีดวง ด้วยการรัดยาง  

การรักษาริดสีดวง ด้วยการรัดยาง เป็นการนำยางทางการแพทย์ ไปรัดที่หัวของริดสีดวงทวาร จนฝ่อ และ หลุดออกไป ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 – 7 วัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการ ริดสีดวงแบบหัวย้อยมากๆ ไม่สามารถหดกลับเข้าไปเองได้ เมื่อหัวริดสีดวงทวารหลุดออก พังผืดที่เกิดจากแผล จะรั้งริดสีดวงที่เหลือให้หดกลับเข้าไปเอง

ซึ่งวิธีรักษาริดสีดวงแบบนี้ จะเจ็บพอสมควร จะรู้สึกระคายเคือง ปวดหน่วงที่ทวารหนัก ประมาณ 1 – 2 วัน หากเจ็บมากก็จำเป็นจะต้องเอายางที่รัดออกโดยทันที อีกทั้งมีโอกาสติดเชื้อได้ และมีโอกาสเกิดริดสีดวงทวาร ซ้ำขึ้นมาอีกได้

5. รักษาริดสีดวง ด้วยการผ่าตัด ริดสีดวง

การผ่าตัด ริดสีดวง เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นริดสีดวงทวารภายนอก หัวริดสีดวงทวารมีขนาดใหญ่มาก โดยหัวริดสีดวงไม่สามารถหดกลับเข้าไปได้อีก รักษาอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น ซึ่งผู้ป่วยจะรู้สึกปวด เจ็บ คันตลอดเวลา เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยการผ่าตัด ริดสีดวงนั้น มีหลายวิธี จะมีการฉีดยาชา รอบรูทวาร ก่อนการผ่าตัด ริดสีดวง ซึ่งจะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ทั้งนี้การผ่าตัด ริดสีดวง มีหลายวิธีด้วยกัน โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณา เช่น

  • ผ่าตัด ริดสีดวง เอาก้อนเนื้อออก : เป็นการผ่า เอาหัวริดสีดวงออกไป แล้วเย็บปิดปากแผล เหมาะสำหรับผู้ที่มีหัวริดสีดวงทวารขนาดใหญ่มาก
  • ผ่าตัด ริดสีดวง แบบเลเซอร์ : โดยแพทย์จะทำการเจาะเปิดแผล พร้อมสอดใยแก้วนำแสงเลเซอร์ ผ่านทางทวารหนัก ลอดใต้ริดสีดวงทวาร ไปยังขั้วของเส้นเลือดเลี้ยงริดสีดวง จากนั้นจะทำการยิงเลเซอร์เข้าไป ทำให้เส้นเลือดบริเวณหัวริดสีดวงให้ฝ่อ และ ยุบลง ซึ่งข้อดีของการรักษาริดสีดวงวิธีนี้ คือ แผลมีขนาดเล็ก และ ไม่ต้องเย็บแผลหลังเลเซอร์เสร็จ
  • ผ่าตัด ริดสีดวง แบบใช้เครื่องมือตัดเย็บอัตโนมัติ : โดยแพทย์จะใช้เครื่องตัดเย็บอัตโนมัติ (Stapled hemorrhoidopexy) ในการผ่าตัด และ เย็บแผลไปในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นริดสีดวงภายใน

นอกจากนี้ ยังมีวิธีรักษาริดสีดวง ด้วยการผ่าตัด ริดสีดวง หลากหลายวิธี เช่น ผ่าตัดเย็บหลอดเลือดริดสีดวง ใช้แสงอินฟาเรด เป็นต้น ทั้งนี้การผ่าตัด ริดสีดวง ต้องดูแลแผลหลังผ่าตัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ อีกทั้งต้องใช้เวลาพักฟื้น ซึ่งจะช้าหรือเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับวิธีที่เลือกผ่าตัด และ การฟื้นตัวของร่างกายแต่ละบุคคล

หัวริดสีดวงทวารใหญ่ เจ็บ ปวด แต่ไม่ผ่าตัดได้ไหม?

ถาม : หัวริดสีดวงทวารใหญ่ เจ็บ ปวด แต่ไม่ผ่าตัดได้ไหม?
ตอบ : ได้ เพราะขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละคน และการผ่าตัด ก็มีโอกาสกลับมาเป็นอีกได้เช่นกัน ที่สำคัญหัวใจหลักของการรักษาริดสีดวง ให้หายขาด คือ การเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น นั่งส้วมนาน ดื่มน้ำน้อย แล้วอาจใช้วิธีรักษาอื่นร่วมด้วย เช่น ใช้ยาเหน็บ นั่งแช่ในน้ำอุ่น ทานยา สมุนไพร รักษา ริดสีดวง

ต้องบอกก่อนว่า การรักษาริดสีดวง ด้วยการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละคน เพราะการรักษาริดสีดวง ด้วยการผ่าตัด ก็มีโอกาสกลับมาเป็นอีกได้เช่นกัน ที่สำคัญหัวใจหลักของการรักษาริดสีดวง ให้หายขาดนั้น คือ การปรับกิจวัตรประจำวันของตัวเอง โดยหลีกเลี่ยงพฤติกรรม ที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น นั่งส้วมนาน ดื่มน้ำน้อย ตามที่เราบอกไปข้างต้น แล้วอาจใช้วิธีรักษาริดสีดวงอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ใช้ยารักษาริดสีดวงทวารแบบเหน็บ นั่งแช่ในน้ำอุ่น ทานยา สมุนไพร รักษา ริดสีดวง ฯลฯ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า “หากมีอาการ ริดสีดวงทวาร หัวใหญ่ เจ็บ ปวด ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ริดสีดวงก็ได้”

มียารักษาริดสีดวงทวาร ชนิดรับประทานไหม? 

หากคุณไม่อยากรักษาริดสีดวง ด้วยการใช้ยาเหน็บ ฉีดยา รัดยาง ผ่าตัด ริดสีดวง เพราะกลัว แต่อยากได้วิธีง่ายๆ อย่างการทานยา จนเกิดคำถามสงสัยว่า มียารักษาริดสีดวงทวาร แบบรับประทานไหม? คำตอบคือ “มี” ซึ่งเป็นยา สมุนไพร รักษา ริดสีดวง ที่เป็นยาแพทย์แผนไทย เพราะยารักษาริดสีดวงทวาร แผนปัจจุบัน ที่เป็นยาเคมี สารสังเคราะห์ มีแค่ยาทานแก้ปวด ลดอักเสบ หรือ แก้ระคายเคืองเท่านั้น ไม่ได้มียารักษาริดสีดวงทวารชนิดรับประทานโดยตรง โดยยา สมุนไพร รักษา ริดสีดวง ที่ว่านั้นก็คือ “ยา สมุนไพร รักษา ริดสีดวง จากศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ” นั่นเอง

โดยยา สมุนไพร รักษา ริดสีดวง ของศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาริดสีดวง แต่ไม่กล้าไปพบแพทย์ กลัวการใช้ยาเหน็บ ฉีดยา ผ่าตัด ริดสีดวง เพราะยาสมุนไพรหมออรรถวุฒิ มีทั้งชนิดรับประทาน และ แบบทา สกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ 100% สามารถรักษาริดสีดวง ได้ทุกระยะ ไม่ว่าจะมีหัวริดสีดวงทวารเล็ก หรือ ใหญ่ มีเลือดออก ระบบขับถ่ายผิดปกติ ฯลฯ ที่สำคัญลดโอกาสการเกิดริดสีดวงทวารซ้ำใหม่ได้ด้วย

ยา สมุนไพร รักษา ริดสีดวง หมออรรถวุฒิ
สกัดสมุนไพรเข้มข้น ไม่ใช่ยาระบาย หยุดอาการ ริดสีดวง ทุกระยะได้ หัวยุบ ไม่ต้องผ่าตัด เลือดไม่ไหล ลุก นั่ง เดินสบาย ใช้ชีวิตอิสระ

โดยยา สมุนไพร รักษา ริดสีดวง หมออรรถวุฒิ ชนิดรับประทาน สกัดจากสมุนไพรเข้มข้น เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ปรุงในสูตรตำรับที่ลงตัว ปราศจากสารเสตียรอยด์ ไม่มีส่วนผสมของยาระบาย ได้รับการรับรอง ผ่านการตรวจวิเคราะห์ความบริสุทธิ์ และ ความปลอดภัยจาก อย. ผ่านมาตรฐานการผลิต GMP ภายใต้การควบคุมของแพทย์ไทย และ เภสัชกร โดยศูนย์แพทย์ไทยหมออรรถวุฒิ เป็นแพทย์แผนไทยผู้เชี่ยวชาญ และ ประสบการณ์มานานกว่า 30 ปี จนมีผู้กล่าวถึง จนเกิดการซื้อซ้ำ และ บอกต่อมากที่สุด ยาวนานกว่า 30 ปี ซึ่งยา สมุนไพร รักษา ริดสีดวง หมออรรถวุฒิ ประกอบไปด้วย สารสกัดสมุนไพรธรรมชาติ หลากหลายชนิด ที่สด ใหม่ เช่น

  • แก่นฝางสกัด
  • แก่นปรูสกัด
  • เปล้าใหญ่สกัด
  • เปลือกโมกมันสกัด
  • เพชรสังฆาตสกัด
  • หัวแห้วหมูสกัด
  • ลูกเล่วสกัด
  • โกฐน้ำเต้าสกัด
  • โกฐกักกราสกัด
  • มะคำไก่สกัด
  • ดีปลีสกัด
  • เบญจผลธาตุสกัด
  • สมอไทย สมอเทศ สมอพิเภกสกัด

โดยสารสกัดธรรมชาติ ที่เป็นสูตรตำรับเฉพาะนี้ จะช่วยเข้าไปรักษาริดสีดวง ฟื้นฟูอาการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น

  1. ช่วยทำให้ขนาดของหัวริดสีดวงทวาร ค่อยๆ ยุบลงตามธรรมชาติ จนกลับมาเป็นปกติ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวก ลุก นั่ง ยืน เดิน ได้อย่างอิสระ
  2. ลดอาการปวด เจ็บ ระคายเคือง
  3. ลดอาการบวม ลดกลไกการอักเสบ ของริดสีดวงทวาร
  4. ขับถ่ายสะดวก เลือดไม่ไหล ขณะขับถ่าย
  5. ช่วยสมานแผลริดสีดวงทวาร
  6. หลอดเลือดบริเวณทวารหนัก ที่สูญเสียความยืดหยุ่นไป ค่อยๆ หดกลับเข้าไปดังเดิม
  7. หลอดเลือดบริเวณทวารหนัก ที่เคยโป่งพอง กลับมาโป่งพองได้ยากขึ้น โอกาสการเกิดริดสีดวงซ้ำจึงเป็นไปได้ยาก
  8. ระบบโลหิตไหลเวียนดีขึ้น เลือดที่เคยคั่ง บริเวณทวารหนัก ค่อยๆ สลายออกไป
  9. ปรับสมดุลขับถ่าย ขับถ่ายสะดวก ไม่ท้องเสียบ่อย หรือ ท้องผูกบ่อย
  10. ช่วยสมานลำไส้ สมานผนังสำไส้ใหญ่ให้เรียบ
  11. ช่วยทำให้อุจจาระนิ่มขึ้น ลดโอกาสการเกิดแผลที่ปากทวารหนัก
  12. ช่วยขับของเสีย ดีท็อกซ์ล้างสารพิษ ออกจากร่างกาย โดยไม่ได้มีฤทธิ์เป็นยาระบาย
  13. ช่วยทำให้ลำไส้สะอาดขึ้น เพราะมีส่วนช่วยล้างเมือกมัน ตะกรัน น้ำหนองต่างๆ ให้หมดไป
  14. มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ป้องกันการเกิด เนื้องอกเนื้อร้าย

นอกจากนี้ยังมี ยารักษาริดสีดวงทวาร ชนิดทาภายนอก ที่สามารถใช้ร่วมกันได้ เพื่อให้หายไวยิ่งขึ้น ช่วยลดการปวด อักเสบ ของริดสีดวงทวาร ซึ่งทำจากขี้ผึ้งสมุนไพร 17 ชนิด ไม่มีส่วนผสมของเสตียรอยด์ ยาชา จึงไม่แสบ ไม่กัด ให้ความรู้สึก ลื่น สบาย โดยใช้ทาบริเวณหัวริดสีดวง ให้ยุบตัวเร็วขึ้น ช่วยให้เลือดหยุดไหลเร็วขึ้นด้วย นับว่าเป็นทางเลือกการรักษาริดสีดวง สำหรับผู้ที่มีหัวริดสีดวงใหญ่ ปวด เจ็บ คัน และไม่อยากผ่าตัด ที่เหมาะมากเลยทีเดียว สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

หากมีข้อสงสัยใด ๆ เพิ่มเติม สามารถคอมเม้นท์สอบถามได้ เรามีเภสัชกร และ ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพ


แชร์ได้เลยค่ะ

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top